นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ให้คำมั่นที่จะเดินหน้าฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ด้วยการกำหนดเป้าหมายในการเพิ่มการใช้จ่ายรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากกว่า 5 ล้านล้านเยนต่อปี
คำมั่นสัญญาของผู้นำญี่ปุ่น มีขึ้นระหว่างที่เจ้าตัวขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ชี้แจงนโยบายในวันแรกของการประชุมรัฐสภา โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นย้ำว่า จะใช้ประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มทางชายแดนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินแล้ว! ครั้งแรกในรอบ 24 ปี หลังเยนอ่อนค่าหลุด 145 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
- ‘ญี่ปุ่น’ แชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลปี 2022 เที่ยวได้ 193 จุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องขอวีซ่า ขณะไทยตกไปอยู่อันดับที่ 70
- ไม่ขายแต่ปิดกิจการเลย! Toyota ยุติการผลิตและการขายในรัสเซีย แม้ครองส่วนแบ่งมากที่สุดในบรรดาแบรนด์ญี่ปุ่นก็ตาม
ทั้งนี้ ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างมากดันให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความพร้อมที่จะจัดการกับต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น โดยให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อบรรเทาภาระของครัวเรือนและบริษัทต่างๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงการวางแผนสนับสนุนการเพิ่มค่าจ้างด้วยการลงทุนพัฒนาทักษะความสามารถของแรงงานในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตเป็นระยะเวลา 5 ปี คิดเป็นมูลค่ารวม 1 ล้านล้านเยน
นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวอย่างหนักแน่นว่า รัฐบาลจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้กับสินค้าที่ราคาแพงขึ้นและจะฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
สำหรับการประชุมสภาวาระพิเศษเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 ตุลาคม) มีขึ้นระหว่างที่เสียงสนับสนุนและคะแนนความนิยมของรัฐบาลคิชิดะร่วงอย่างแรง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่รัฐบาลตัดสินใจจัดพิธีศพให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ซึ่งถูกสังหารในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ เพื่อบรรเทาความไม่พอใจของสาธารณชนและเรียกคะแนนความนิยมให้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีคิชิดะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาทางบังคับใช้นโยบายที่สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากราคาพลังงานและอาหารที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของตนนั้นจะให้ความสำคัญใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การตอบสนองต่อราคาที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของเงินเยน 2. การขึ้นค่าแรง และ 3. การลงทุนเพื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศ ขณะนี้กลายเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในเวลานี้ โดยก่อนที่ไวรัสโควิดจะแพร่ระบาดในต้นปี 2020 การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.8 ล้านล้านเยนในปี 2019 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือประมาณ 1.2 แสนล้านเยนในปี 2021
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นซึ่งกำลังจะยกเลิกการจำกัดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศต่อวันในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ คาดหวังว่าค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงจะช่วยเพิ่มกำลังการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่ออยู่ในญี่ปุ่น โดยเงินเยนขณะนี้ร่วงหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีคิชิดะย้ำว่ารัฐบาลจะหาทางให้ประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยนอกจากประโยชน์ในเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงจะส่งผลดีทำให้ราคาสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นมีความได้เปรียบด้านราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินเยนที่อ่อนค่ามากเกินไปก็เป็นผลร้ายต่อญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานมากกว่า 90%
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดทำแผนเศรษฐกิจในเดือนตุลาคม และยื่นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันถึงเดือนมีนาคม 2023 ในช่วงระหว่างการประชุมสภาไดเอทในปัจจุบัน
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP