ญี่ปุ่นได้กลายเป็นประเทศผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยและร้ายแรงที่สุดโรคหนึ่งของโลก โดยคาดว่าจะเป็นที่รู้จักและนำไปใช้ทั่วโลกภายในสิ้นทศวรรษนี้
ในการศึกษาล่าสุดที่ดำเนินการโดย Patent Result ซึ่งเป็นบริษัทในโตเกียว พบว่า ญี่ปุ่นเป็นผู้นำในการยื่นจดสิทธิบัตรใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการรักษาโรคมะเร็งในปี นี่นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจากสหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งผู้นำสูงสุดมาหลายปี ประเทศจีนก็ก้าวหน้าเช่นกัน โดยปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 3 ของจำนวนสิทธิบัตรสำคัญที่ยื่นจด
การยื่นขอสิทธิบัตรและการอนุมัติที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล โรคมะเร็งเป็นปัญหาสุขภาพระดับโลก โดยมีผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 20 ล้านรายที่ได้รับการวินิจฉัยทุกปี และเสียชีวิต 10 ล้านราย ความต้องการในการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างเร่งด่วนนี้ได้จุดประกายการแข่งขันระดับโลกที่รุนแรงขึ้นในด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และการรักษาที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เห็นทางเลือกในการรักษาที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งรวมถึงการบำบัดด้วยลำแสงอนุภาคหนัก การบำบัดด้วยการดักจับนิวตรอนด้วยโบรอน (BNCT) และการบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันด้วยแสง ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าวิธีการรักษาแบบใหม่เหล่านี้จะกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมควบคู่ไปกับยาต้านมะเร็งและภูมิคุ้มกันบำบัดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน
จากการศึกษาวิจัยโดย Patent Result ได้ตรวจสอบสิทธิบัตรที่ยื่นในยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยพบว่ามีสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้อง 3,148 ฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2000-2022
ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนคำขอรับสิทธิบัตรสูงสุด ญี่ปุ่นทำคะแนนได้ดีกว่าในแง่ของความสามารถในการแข่งขัน เหตุผลสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในปี 2021 คือจำนวนสิทธิบัตรที่เพิ่มขึ้นในด้านการบำบัดด้วยอนุภาคหนักและ BNCT ซึ่งพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2010
บริษัทและสถาบันของญี่ปุ่นจำนวน 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทชื่อดังอย่าง Hitachi และ Toshiba ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกขององค์กรที่ถือครองสิทธิบัตร สิ่งนี้สามารถเชื่อมโยงกับความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาขั้นสูง ความคิดริเริ่มของรัฐบาลได้รับแรงผลักดันจากความจริงที่ว่า โรคมะเร็งกลายเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่น และเป็นประเด็นที่สำคัญทางสังคม
โดยโครงการประกันแห่งชาติของญี่ปุ่นได้เพิ่มการรักษามะเร็งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทั้ง 3 อย่างนี้เข้าในรายการการรักษาที่ได้รับการสนับสนุนระหว่างปี 2016-2020 ซึ่งเป็นการรักษาที่ครอบคลุมที่ล้ำหน้ากว่าส่วนอื่นๆ ของโลก
อ้างอิง:
