‘เยลเลน’ ลั่น เศรษฐกิจสหรัฐฯ แค่โตช้า มั่นใจภาวะถดถอยไม่ใช่เรื่องที่เลี่ยงไม่ได้

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แสดงความเห็นระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์ ABC เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศว่า มีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวช้าลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่ไม่น่าจะรุนแรงจนถึงขั้นเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นับเป็นการมองโลกในแง่บวกของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ท่ามกลางความวิตกกังวลของเหล่านักเศรษฐศาสตร์ที่มองว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากหลายปัจจัยรุมเร้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ อย่างอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวมในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่รูปแบบการใช้จ่ายกำลังเปลี่ยนไปเนื่องจากผลกระทบของราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น เยลเลนกล่าวต่อว่า การออมของครัวเรือนในช่วงโควิดนี้จะช่วยรักษาอำนาจในการใช้จ่ายของผู้บริโภคไว้ได้

ปัจจุบันอัตราการออมของประเทศลดลงเหลือประมาณ 6% ซึ่งต่ำกว่าระดับก่อนไวรัสโควิดระบาด หลังจากแตะระดับ 16.6% ในปี 2020 ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่มีการเริ่มจดบันทึก และ 12.7% ในปี 2021

ขณะเดียวกัน ความเห็นของเยลเลนในครั้งนี้ยังสอดรับกับความคิดเห็นของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทางสำนักข่าว AP ที่ยืนยันว่า ภาวะถดถอยไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมยืนกรานว่าสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมากกว่าชาติใดๆ ในโลกในการเอาชนะเงินเฟ้อ

วันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ CNA รายงานอ้างอิงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสองนายที่เปิดเผยว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาทบทวนเพื่อเพิกถอนมาตรการกีดกันทางภาษีกับจีน และความเป็นไปได้ที่จะระงับการเก็บภาษีน้ำมัน นับเป็นอีกหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการดิ้นรนเพื่อรับมือกับราคาน้ำมันและสินค้าที่ปรับตัวแพงขึ้น

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า มาตรการการเก็บภาษีศุลกากรจีนบางส่วนที่ได้รับสืบทอดมาจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น ‘ไม่มีจุดประสงค์เชิงกลยุทธ์’ และเสริมว่า ทางประธานาธิบดีไบเดนกำลังพิจารณาถอดภาษีเหล่านี้ออกเพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่จะลดอัตราเงินเฟ้อซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี

เยลเลนระบุว่า ทุกฝ่ายต่างตระหนักดีว่าจีนมีส่วนร่วมในแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแก้ไข แต่ภาษีศุลกากรที่ทางรัฐบาลได้รับมานั้นบางส่วนไม่ได้มีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และกลับส่งผลร้ายด้วยการเพิ่มต้นทุนให้กับผู้บริโภค

การระงับการจัดเก็บภาษีน้ำมันมีขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน โดยภาษีน้ำมันจะอยู่ที่ 18.4 เซนต์ต่อแกลลอน

เยลเลนกล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิดลดการจัดเก็บภาษีน้ำมันเป็นแนวทางที่น่าพิจารณาอย่างแน่นอน โดยรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องการทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยผู้บริโภค

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP