‘เจเน็ต เยลเลน’ ลั่นเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงอย่างไม่อาจยอมรับได้ พร้อมหนุน Fed ใช้ยาแรง

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่นั้นเป็นระดับที่สูงอย่างไม่อาจยอมรับได้ พร้อมส่งสัญญาณสนับสนุน Fed ใช้ยาแรงเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ ระบุต้นทุนพลังงานที่สูงเป็นชนวนหลักทำเงินเฟ้อพุ่ง

วันนี้ (14 กรกฎาคม) เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวเตือนว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในขณะนี้สูงอย่างไม่อาจยอมรับได้ อีกทั้งยังกล่าวว่าการดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงจะเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยการแสดงความคิดเห็นของ เจเน็ต เยลเลน ครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากการประกาศข้อมูลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายน ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 9.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981

เยลเลนกล่าวในงานแถลงข่าวที่บาหลีก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ G20 ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนความพยายามของ Fed เป็นอย่างแรก และจะให้ความสำคัญที่สุดต่อสิ่งที่ Fed เห็นควรว่าจำเป็นต้องทำเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

“ยิ่งไปกว่านั้น เรากำลังดำเนินการตามขั้นตอนของเราเอง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อในระยะสั้นปรับลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินการเกี่ยวกับราคาพลังงานและปริมาณสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการกำหนดกรอบราคาน้ำมันของรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในอนาคต” เยลเลนกล่าว

โดยเยลเลนให้สัมภาษณ์เพิ่มว่า เกือบครึ่งหนึ่งของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากต้นทุนพลังงานที่สูง

ต่อด้วยคำถามที่ว่า การลดอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญมากกว่าความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและการเติบโตที่ชะลอตัวหรือไม่ เยลเลนกล่าวว่า เธอเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรทำคือการลดอัตราเงินเฟ้อเนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในปัจจุบันแข็งแกร่งอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เยลเลนกล่าวยอมรับว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศอื่นๆ

โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าจะทำให้สกุลเงินอื่นค่อนข้างอ่อนค่าลง แต่ก็อาจทำให้ภาคการส่งออกทำได้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

“ในด้านหนึ่ง ดอลลาร์แข็งค่าสามารถเสริมสร้างความสามารถในการส่งออก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการเติบโตของประเทศอื่นๆ ที่พึ่งพาการส่งออก ในทางกลับกัน สำหรับประเทศที่มีหนี้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ก็ต้องเผชิญกับปัญหาหนี้เหล่านั้นอย่างยากลำบากขึ้น” เยลเลนกล่าว

อ้างอิง: