×

เปลือยความคิด ‘เจ๊เล้ง’ ในวัย 71 ปี สอน SMEs ไทย “ทำธุรกิจอย่าหยุดคิด แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะรวย”

13.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • เจ๊เล้ง เจ้าของอาณาจักรเจ้เล้ง ดอนเมือง มาเยือนข้างทำเนียบรัฐบาล พร้อมเผยแนวคิดและวิธีคิดการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
  • เจ๊เล้งพูดตรงอย่างไม่เกรงใจใคร แต่ได้ใจทุกคน พร้อมแนะนำวิธีคิดการพัฒนาธุรกิจ SMEs อย่างไม่มีกั๊ก
  • “ทำธุรกิจอย่าหยุดคิด แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะรวย” คือคำพูดของคนรวยอย่างเจ๊เล้งที่สอนคนอยากรวยอย่างเรา

ใครเคยผ่านมาแถวข้างทำเนียบรัฐบาลบริเวณคลองผดุงกรุงเกษม จะเห็นเต็นท์ตลาดประชารัฐตามดำริของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี


ความน่าสนใจของตลาดคลองผดุงกรุงเกษมวันนี้ (13 ธ.ค.) ไม่ได้อยู่ที่ของที่ขายในตลาด แต่คือการมาของ เจ๊เล้ง-อารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล


‘เจ๊เล้ง’ เปลี่ยนตลาดที่แค่มีไว้เป็นทางเลือกตอนพักกลางวันของข้าราชการและสื่อมวลชนในทำเนียบรัฐบาลให้กลายเป็นงาน Life Coaching ที่น่าสนใจและประทับใจ


ก่อนขึ้นเวที ผู้จัดงานพยายามเรียก ‘เจ๊เล้ง’ มาบรีฟ แต่เจ๊บอกเสียงดัง ไม่ต้องบรีฟ อยากถามอะไรก็ถามเลย ขอเอาเวลาไปเดินตลาดก่อนขึ้นพูด


สิ่งแรกที่เจ๊เล้งพูดบนเวทีคือเริ่มติผู้ประกอบการในตลาด เจ๊เล้งบอกว่าการออกบูธเป็นสิ่งดี แต่ไม่ใช่ทุกบูธที่มาออกจะเหมาะกับสินค้าที่ขาย หากแปลเป็นภาษาธุรกิจคือต้องรู้ว่าตลาดแบบไหนเหมาะกับสินค้าเรา


ตลาดนัดข้างคลองที่มีแต่คนวัยเกษียณและคนมาหาซื้อของกินไม่เหมาะกับหลายสินค้าที่มาตั้งอยู่ในวันนี้ เจ๊เล้งพูดดังโดยไม่สนว่ากำลังยืนอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาลที่หลายคนพยายามขายของอยู่


เจ๊เล้งพูดต่ออย่างไม่เกรงใจว่า ผู้ประกอบการ SMEs เวลาออกบูธ ถ้าไม่มายืนแนะนำเองก็ต้องเทรนคนขายให้สามารถพูดแนะนำสินค้ากับลูกค้าได้ คนยืนหน้าร้านสำคัญมาก ถ้าไปร้านเจ๊เล้ง คนขายของในร้านจะสามารถแนะนำสินค้าในร้านได้อย่างดี


ถ้าเจ๊เล้งจะขายของให้ลูกค้า 10 คน ทั้ง 10 คนจะไม่ได้ใช้สินค้าเหมือนกัน เจ๊เล้งจะแนะนำและชี้ชวนให้ลูกค้าเห็นว่าเขาเหมาะกับอะไร แนะนำด้วยความจริงใจและรู้จริง ดังนั้นถ้าเจ๊เล้งขายของให้ลูกค้า 10 คน ของที่ขายได้ต้องเกิน 10 ชิ้นอย่างแน่นอน


เจ๊เล้งบอกว่าปัญหาของ SMEs คือความไม่เสถียร อันดับแรกคือคุณภาพไม่เสถียร ถ้าเป็นของกิน เดี๋ยววันนี้อร่อย พรุ่งนี้ไม่อร่อย แต่ถ้าคุณภาพเสถียรแล้ว ราคาก็มักไม่เสถียร พอขายดีก็ขึ้นราคา ขึ้นราคาบ่อยๆ ใครจะไปซื้อ จะขายอะไรต้องเข้าใจสินค้าตัวเอง ต้องวางแผนเรื่องราคาให้ขายได้ในราคาเดิมอย่างน้อย 2 ปี

 

 

ช่วงหนึ่งบนเวที มีผู้ประกอบการเครื่องเงินจากจังหวัดน่านนำสินค้าเครื่องเงินทำเป็นเรือสวยงามให้เจ๊เล้งดู แล้วบอกว่าส่วนใหญ่จะออกบูธตามห้าง แต่ทำไมลูกค้ามักไม่สนใจ โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนที่ได้ยินมาว่าชอบสินค้าแบบนี้


เจ๊เล้งตอบทันทีว่า “คุณจะไปขายได้ยังไง ตามห้างนักท่องเที่ยวจีนเขามาเดินเที่ยว ใครเขาจะซื้อของแต่งบ้านแบกกลับไป” ของตกแต่งบ้านสวยๆ แบบนี้ เจ๊เล้งแนะนำว่า เลิกออกบูธตามห้าง เปลี่ยนไปออกบูธตามงานแสดงสินค้าต่างประเทศที่มีผู้ประกอบการมาดูสินค้า แล้วดีลเพื่อผลิตให้เขาไปขายต่ออีกที เจ้าของเครื่องเงินฟังแล้วพยักหน้าเห็นด้วย เหมือนได้ไอเดียที่ไม่เคยรู้มาก่อน

 


ส่วนอีกเจ้าหนึ่งทำผงปรุงรสออร์แกนิกจากผัก 100% ไม่ผสมผงชูรส อยากให้เจ๊เล้งช่วยแนะนำ


เจ๊เล้งมองแพ็กเกจแล้วบอกว่า เจ๊เป็นคนชอบกิน ชอบทำอาหาร และใช้ผงปรุงรสออร์แกนิกแบบนี้ประจำ เจ๊เล้งบอกว่าเห็นตั้งแต่เดินสำรวจตลาดแล้ว แต่เจ๊ไม่ซื้อนะ!


ที่ไม่ซื้อเพราะแพ็กเกจมันเหมือนผงปรุงรสเจ้าตลาดที่มีผงชูรส ทำไมเราต้องไปทำให้คล้ายเขา คนกินเขาก็แยกไม่ออก เกิดความไม่มั่นใจ หน้าตามันเหมือนของเขา แต่ของเราแพงกว่า


เจ๊เล้งบอกว่า ถ้าเป็นเจ๊จะเปลี่ยนแพ็กเกจ ทำเล็กๆ เหมือนซองคอฟฟี่เมต ทำให้ชัดว่าของเราเป็นออร์แกนิก แยกให้ชัดว่าอันนี้ทำจากเห็ด อันนี้ทำจากหัวไชเท้า อย่าทำแบบผักรวมมั่วซั่วแบบนี้ เพราะบางคนเขาไม่ได้กินได้ทุกอย่าง

 


มีช่วงหนึ่งพิธีกรถามว่า เจ๊เล้งรับมือกับการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยอย่างไรกับกระแส Digital Disruption ที่ถาโถมเข้ามาใส่ในทุกธุรกิจ?


เจ๊เล้งไม่ตอบตรงๆ แต่เล่าว่าก่อนมางานนี้เพิ่งกลับจากไปปีนเขาที่จีนมา ใช้เวลาปีน 7 ชั่วโมง เวลาไปเที่ยวชอบไปกับวัยรุ่น จะไม่ไปกับคนวัยเดียวกันเด็ดขาด


ถ้าไปกับคนแก่ ชวนไปเดินที่ไหนก็ไม่ไป เดินไม่ไหว ชวนกินอะไรก็กินไม่ได้ แต่เจ๊เล้ง ไปทุกที่ กินทุกอย่าง


การไปกับคนรุ่นใหม่ช่วยเติมเต็มความคิดเรา ได้ฟังความคิดเด็กๆ ที่เราตามไม่ทัน หน้าที่เราคือรับฟังและแนะนำเขา แต่ไม่ปิดกั้น ทุกวันนี้ของที่ขายในร้านมาจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่เยอะมาก


มีเด็กคนหนึ่งหัวดี เอาทุเรียนมาแปรรูปเป็นเหมือน potato chips แล้วปรุงรสให้หลากหลาย เอามาเสนอขายในร้านเจ๊เล้ง


เจ๊เล้งเห็นแล้วลองชิม บอกเพียงว่าถ้าจะขายคนไทย รสชาตินี้โอเค แต่ถ้าอยากขายเมืองนอก ให้ไปใส่กลิ่นทุเรียนเพิ่ม ตอนนี้ส่งขายเกือบทั่วโลก


นี่คือตัวอย่างการนำประสบการณ์มาแนะนำต่อยอดไอเดียของคนรุ่นใหม่

 

 

ช่วงท้ายของงาน พิธีกรถามคำถามคลาสสิก ทำอย่างไรถึง ‘รวย’ แบบเจ๊เล้ง?


“ทำธุรกิจอย่าหยุดคิด แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะรวย คิดหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวให้ได้ก่อนแล้วค่อยพัฒนาตัวเอง ที่สำคัญ อย่าไปมั่นใจในตัวเองมากนัก ฟังคนรอบข้างที่วิจารณ์เรา และอย่าไปโกรธที่เขาติ


“จะทำอะไรต้องทำในสิ่งที่เรารักและรู้จริง ถ้ามัวแต่ไปมองว่าชีวิตคนอื่นดีไปหมดแล้วเราจะมีความสุขได้อย่างไร”


เจ๊เล้ง เศรษฐีนีหมื่นล้าน เรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ ไม่เคยคิดว่าเรารวยแล้ว ประสบความสำเร็จแล้ว ไม่ต้องฟังคนอื่น จากร้านซึ่งตั้งแค่ที่ดอนเมือง ทุกวันนี้ร้านเจ๊เล้งก็มีในโลกออนไลน์ (www.ranjaeleng.com) มีเพจเฟซบุ๊กยอดไลก์ 3 แสนกว่าคน

 


เจ๊เล้งย้ำตลอดการบรรยายว่า ทำธุรกิจอย่าหยุดคิด อย่าหยุดพัฒนา ถ้าล้มก็ต้องสู้ หมอดูไม่ต้องไปหา เอาเวลาไปหาตัวเองให้เจอ และเปิดใจเรียนรู้เพิ่มเติม


“ทำธุรกิจอย่าหยุดคิด แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะรวย” ทั้งหมดคือ coaching ธุรกิจสไตล์ ‘เจ๊เล้ง’ ที่เกิดขึ้นข้างทำเนียบรัฐบาลในวันนี้

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising