×

ทำไม เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (J-Tec Material Handling) ได้รับความไว้วางใจในวงการอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชั้นนำทั่วโลก [ADVERTORIAL]

28.02.2024
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (J-Tec Material Handling) บริษัทวิศวกรรมผู้เชี่ยวชาญการออกแบบและติดตั้งระบบขนถ่ายวัตถุดิบที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้กับอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย และแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คือหนึ่งในบริษัทที่กลุ่มอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหารชั้นนำระดับโลกเลือกให้เป็นพันธมิตร
  • ประเด็นสำคัญเกิดจาก 4 ความโดดเด่น ได้แก่ Tailored Solution ปรับแต่งและแก้ไขปัญหา รวมทั้งพัฒนาการออกแบบให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย,  Material Specialist เชี่ยวชาญในการจัดการวัตถุดิบและวิศวกรรมในกระบวนการผลิต, Expertise Engineering Team มีทีมวิศวกรชำนาญการพิเศษ และ Full Training & Support ให้ความช่วยเหลือเพื่อฝึกอบรมภาคปฏิบัติและบริการหลังการขายโดยทีมวิศวกรของเจ-เทค

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหารของไทยมีการแข่งขันสูงมาก ไม่แต่เฉพาะการแข่งขันกันด้านความสามารถในการผลิตในประเทศ แต่ไทยยังต้องผลักดันศักยภาพธุรกิจเพื่อแข่งขันกับตลาดโลก เพราะไทยถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ของเอเชีย 

 

ข้อมูลจากสถาบันอาหารแห่งชาติ เผยว่า ‘ประเทศไทย’ คือผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของโลก

 

 

ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนถ่ายวัตถุดิบด้วยนวัตกรรมใหม่เพื่อรองรับการเติบโตที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจึงเป็นทางเลือกที่ควรนำมาพิจารณา ทว่าการจะปรับตัวให้ทันตามความเปลี่ยนแปลงของตลาด จำเป็นที่จะต้องมีพันธมิตรที่เข้าใจความต้องการของธุรกิจ และมองขาดถึงอุปสรรคและความท้าทายในอุตสาหกรรม 

 

เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (J-Tec Material Handling) เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจและประสบความสำเร็จในวงการอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหารทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้ เจ-เทค ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญการออกแบบและสร้างระบบขนถ่ายวัตถุดิบที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้กับอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

 

เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (J-Tec Material Handling) คือใคร?  

 

เจ-เทค เป็นบริษัทสัญชาติเบลเยียม ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 5 ทศวรรษ เริ่มต้นธุรกิจในปี 1970 จากการเป็นตัวแทนขายอุปกรณ์ขนถ่ายวัตถุดิบประเภทผง ก่อนที่จะพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญและให้บริการทางวิศวกรรมแบบครบวงจร และยังเป็นบริษัทในเครือของ คาทูน นาที (Katoen Natie) ซึ่งเป็นบริษัทด้านโลจิสติกส์ครบวงจรจากประเทศเบลเยียม ปัจจุบันขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ ในยุโรป เอเชีย และอเมริกา

 

ในปี 2011 เจ-เทค ได้เริ่มเปิดสำนักงานในประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจร พร้อมทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาและออกแบบการจัดการวัตถุดิบในกระบวนการผลิต โดยปรับให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ในแต่ละโครงการ มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเคมีภัณฑ์ในทวีปเอเชีย ครอบคลุมการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และบำรุงรักษาระบบการจัดการสำหรับวัตถุดิบประเภทผง เม็ดพลาสติก และของเหลวแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบเดิมภายในสายการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (Brownfield) หรือออกแบบและพัฒนาโครงการขึ้นมาใหม่โดยไม่มีพื้นฐานหรือโครงสร้างเดิม (Greenfield)

 

ปี 2018 เจ-เทค ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหารในเมืองไทย ด้วยการก่อตั้ง       J-Tec Material Handling Ltd. พร้อมขยายการลงทุนและเพิ่มจำนวนพนักงาน ส่งผลให้โครงการที่ เจ-เทค รับผิดชอบเติบโตขึ้น ทั้งในด้านความซับซ้อนและขนาดของโครงการ ทั้งโครงการในภูมิภาคอาเซียน ตั้งแต่การปรับปรุงกระบวนการเล็กๆ ไปจนถึงโครงการที่มีมูลค่าสูงถึงหลายร้อยล้านบาท และยังเป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าในเวียดนาม, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, อินเดีย, จีน และญี่ปุ่นอีกด้วย  

 

โดย เจ-เทค ยึดแนวทางปฏิบัติที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลักและเชี่ยวชาญการออกแบบเฉพาะทาง เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างในแต่ละโครงการ ซึ่งเรียกว่า ‘Tailored Solution’ โดยผนวกเข้ากับการใช้กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการตลาดเฉพาะกลุ่ม ทำให้ เจ-เทค เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง (Customer Intimacy) และสามารถนำเสนองานวิศวกรรมที่แตกต่างและเหมาะสมตามที่ลูกค้าคาดหวังได้ สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถ ในการแก้ปัญหาให้กับธุรกิจของลูกค้าได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด

 

เจาะเหตุผลที่ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร เลือกให้ เจ-เทค เป็นพาร์ตเนอร์คนสำคัญของธุรกิจ  

 

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเคมีภัณฑ์ เลือก เจ-เทค เป็นพันธมิตรในขั้นตอนการผลิต เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นใน 4 ด้าน ได้แก่:

 

  • Tailored Solution: ปรับแต่งและพัฒนาแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมให้กับลูกค้าแต่ละราย ด้วยการนำความรู้ ประสบการณ์ และเครื่องมือที่ทันสมัยมาออกแบบพัฒนาวิธีการที่เหมาะกับโครงการ ตามมาตรฐานสากลอย่าง ISO 9001: 2015 และ ISO 45001: 2018 รวมถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น CE, ATEX และ EHEDG เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทันกับความต้องการของตลาดโลก และการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย และแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

 

  • Material Specialist: มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และบำรุงรักษา ในกระบวนการผลิตสำหรับวัตถุดิบประเภทผง เม็ด และของเหลว ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการผลิตหรือการติดตั้งโครงการใหม่แบบครบวงจร ทั้งนี้ เจ-เทค ยังมีความชำนาญในการแก้ปัญหาการจัดการวัตถุดิบและวิศวกรรมในกระบวนการผลิตที่ปรับให้ทันสมัยและเหมาะสมกับอุตสาหกรรมอาหารและเคมีภัณฑ์ทั่วโลกอีกด้วย

 

  • Expertise Engineering Team: การมีทีมวิศวกรชำนาญการพิเศษ จะช่วยเปลี่ยนทุกความต้องการของลูกค้าให้กลายเป็นจริง โดยยึดแนวทางเฉพาะสำหรับทุกโครงการ เน้นการมีส่วนร่วมกับลูกค้า พร้อมเป็นพันธมิตรเคียงข้างตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการจัดการด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การติดตั้ง และทดสอบการใช้งาน การฝึกอบรม และการบำรุงรักษา

 

  • Full Training & Support ทีมวิศวกรของ เจ-เทค มีความชำนาญในการควบคุมงานติดตั้งและการดำเนินงานของแต่ละโครงการ สามารถให้การช่วยเหลือเพื่อฝึกอบรมภาคปฏิบัติ และมีการบริการหลังการขายที่ดี มีทีมงานที่พร้อมดูแลอยู่เคียงข้างลูกค้าเสมอ

 

นอกจากนั้น เจ-เทค ยังมีบริการออกแบบและติดตั้งโครงการแบบครบวงจร (Turnkey Project) รวมไปถึงโปรเจกต์ที่สร้างขึ้นใหม่ (Greenfield) พร้อมทั้งดำเนินการศึกษาวิจัยรายละเอียดเพื่อนำเสนอกระบวนการผลิต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม โภชนาการสำหรับทารก (Infant Nutrition), ขนมขบเคี้ยวและอาหารอบ (Snacks & Baked Food), ส่วนผสมอาหาร (Food Ingredients), ผลิตภัณฑ์พีวีซี (PVC) และพลาสติก (Plastic Compounding) เป็นต้น 

 

 

ล่าสุดทาง เจ-เทค ได้รับความไว้วางใจในการสร้างโรงงานใหม่ให้กับ Sekisui Polymatech ในยุโรป ซึ่งเป็นโรงงานผลิตวัสดุเชื่อมต่อในการระบายความร้อนสำหรับผู้ผลิตแบตเตอรี่และระบบส่งกำลังในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งนี้ การผลิตวัสดุดังกล่าวต้องการความแม่นยำที่สูงมาก และมีการลำเลียงไนโตรเจนด้วยระบบปิด ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับ ATEX ทาง เจ-เทค จึงออกแบบสกรูและกรวยแบบพิเศษ พร้อมท่อเซรามิกและการผสมผสานระหว่างการสั่นสะเทือนและฟลูอิไดเซชันเป็นตัวช่วยในการสกัด รวมไปถึงเครื่องกำเนิดไนโตรเจนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ทำให้สามารถผลิตไนโตรเจนได้ที่ไซต์งาน จึงช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับลูกค้า

 

สำหรับตัวอย่างในประเทศไทยที่ผ่านมา เจ-เทค ร่วมมือกับ TotalEnergies Corbion PLA สร้างโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพ (PLA) สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ 100% ในจังหวัดระยอง ด้วยกำลังการผลิต 75,000 ตันต่อปี มีขอบข่ายการทำงานตั้งแต่การจัดเตรียมพื้นที่เก็บสินค้า ระบบการลำเลียงแบบนิวเมติก (Pneumatic Conveying System) การทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน (Homogenization) รวมถึงระบบบรรจุภัณฑ์และการรีไซเคิล 

 

หรือการจัดหาอุปกรณ์ให้กับ Covestro โรงงานอีลาสโตเมอร์ในมาบตาพุด ซึ่งเกิดจากการนำความรู้ของ Covestro ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญของ เจ-เทค และความรู้เฉพาะทางของผู้ผลิตเครื่องจักร (OEM) ในการส่งมอบงานที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ รวมถึงการยึดมั่นต่อมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด และการกำกับดูแลคุณภาพตามมาตรฐาน CE และ ATEX 

 

นอกจากบริการและความเชี่ยวชาญที่กล่าวมา เจ-เทค ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพของธุรกิจในประเทศไทย โดยนำองค์ความรู้ Lean Project Management ที่เน้นการลดของเสียและการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งประยุกต์กระบวนการจัดตั้งและพัฒนาระบบการผลิตที่ทันสมัยเข้าไปอยู่ในบริการจัดตั้งโรงงานแบบครบวงจร

 

หากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือสิ่งที่ J-Tec Material Handling สามารถมอบให้กับธุรกิจที่ต้องการติดอาวุธลับเพื่อก้าวกระโดดสู่ความสำเร็จ ก็ไม่แปลกใจเลยที่ธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จมี จะมี เจ-เทค ร่วมเป็นพันธมิตร

 

เพราะการมีพันธมิตรที่เข้าใจความต้องการและความท้าทายในอุตสาหกรรมถือเป็นอาวุธสำคัญ การที่ เจ-เทค นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมในอุตสาหกรรมระดับโลกมาประยุกต์ใช้ พร้อมนำเสนอวิธีจัดการที่ครบวงจรจากผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบ การติดตั้ง และการบำรุงรักษา รวมไปถึงทีมงานในพื้นที่ที่พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ทันที ย่อมสร้างประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ ความสำเร็จให้กับธุรกิจได้อย่างไร้กังวล

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising