×

‘It’s Me’ รางวัลแห่งความพยายามของ จิ๊บ BNK48 เพราะเราเป็น ‘เซ็นเตอร์’ ในบทเพลงของตัวเอง

12.03.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • จิ๊บ BNK48 คือหนึ่งในสมาชิกไม่กี่คนที่ไม่เคยได้รับเลือกให้เป็นเซ็มบัตสึในซิงเกิลต่างๆ ของ BNK48 แม้จะมีหลายครั้งที่ท้อแท้และผิดหวัง แต่จิ๊บไม่เคยหยุดพยายามฝึกฝนตัวเอง จนได้รับโอกาสให้เป็นเซ็มบัตสึครั้งแรกในซิงเกิลลำดับที่ 7 อย่าง 77 ดินแดนแสนวิเศษ
  • It’s Me คือผลงานเพลงเดี่ยวครั้งแรกของจิ๊บที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง One Take สารคดีเรื่องที่ 2 ของ BNK48 ที่ถ่ายทอดเรื่องราวตัวตนที่ไม่อาจเป็นเหมือนใครของเธอและเพื่อนๆ ในวงทุกคนได้ดีที่สุด
  • บทเพลงที่ย้ำให้รู้ว่าถึงแม้จะพยายามมากแค่ไหน เราก็ไม่สามารถเป็นคนอื่นได้ ขอแค่เชื่อมั่นและภูมิใจในสิ่งที่เป็นเข้าไว้ และก้าวต่อไปในเส้นทางที่เลือกเดิน เพราะเราทุกคนต่างเป็น ‘เซ็นเตอร์’ ในบทเพลงแห่งชีวิตของตัวเอง

I have to be true. 

It’s all I can do. 

I can’t be you.

 

เสียงร้องหวานใสก้องกังวาน ผลงานเดี่ยวครั้งแรกของ สุชญา แสนโคต หรือจิ๊บ BNK48 ในเพลง It’s Me ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง One Take สารคดีเรื่องที่ 2 ของ BNK48 ที่ถ่ายทอดเรื่องราวตัวตนที่ไม่อาจเป็นเหมือนใครของเธอและเพื่อนๆ ในวงทุกคนได้ดีที่สุด 

 

แต่ก่อนที่สปอตไลต์ดวงนี้จะส่องไฟมาหา ‘เจ้านกน้อยหัวร้อน’ ต้องฝ่าฟันปัญหา อุปสรรค แรงกดดัน และถ้อยคำสบประมาทมากมาย หลายครั้งที่รู้สึกท้อแท้ ผิดหวัง ถูกคลื่นลมแรงกระหน่ำใส่จนแทบรับไม่ไหว 

 

แต่นกน้อยก็ไม่เคยยอมแพ้ ยังคงฝึกฝน พัฒนาปีกทั้งสองข้างจนแข็งแกร่ง ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเดินตามความฝันมาตลอดระยะเวลา 3 ปี จนวันนี้เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มคำ ร้องเพลงได้อย่างเต็มเสียงแล้วว่า

 

จริงใจกับตัวเองเอาไว้… นี่ตัวฉัน

 

จิ๊บในรอบออดิชัน จากรายการ BNK48 Senpai

 

เสียงเพลง ความฝัน และ BNK48
ถ้ามองจากภายนอก จิ๊บคือเด็กสาวอายุ 14 ปีจากจังหวัดลพบุรีที่ดูขี้อาย พูดน้อย ไม่มีคุณลักษณะโดดเด่น แต่ด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรีและความชื่นชอบในวงรุ่นพี่ AKB48 ทำให้เด็กที่ดูเหมือน ‘ธรรมดา’ คนนี้ตัดสินใจส่งใบสมัครเข้าออดิชันเป็นสมาชิกวง BNK48 ท่ามกลางเด็กสาวช่างฝันกว่า 3,000 คนทั่วประเทศเมื่อ 3 ปีก่อน 

 

เมื่อถึงคิวขึ้นโชว์ความสามารถในวันออดิชัน จิ๊บยืนตัวเกร็งอยู่หน้าไมค์ด้วยความเขินอาย แต่ทันทีที่กรรมการให้สัญญาณ นกน้อยที่เคยสั่นกลัวก็สลัดทุกความหวาดหวั่นออกไปจนหมด และเริ่มร่ายมนต์สะกดด้วยเสียงใสกังวานให้กรรมการและทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้ฟัง 

 

น้ำเสียงและทักษะการร้องเพลงที่โดดเด่นทำให้เด็กสาวธรรมดาคนนี้ผ่านเข้ารอบไฟนอล และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิก BNK48 รุ่นแรกที่มีบททดสอบสุดโหดมากมายรอเธออยู่ในอนาคต 

  

ภาพแรกของจิ๊บในฐานะสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 1

 

 

ความพยายาม การต่อสู้ และ Cyberbullying
ถึงแม้ว่าจิ๊บจะก้าวเข้าสู่เส้นทางไอดอลและกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกวง BNK48 ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เธอก็ยังคงต้องฝึกฝนและพัฒนาความสามารถของตัวเองต่อไป ทั้งฝึกทักษะการร้องเพลงให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม ความยากลำบากในการฝึกเต้นที่เธอต้องเริ่มจากศูนย์ 

 

ในขณะเดียวกันจิ๊บยังต้องต่อสู้กับเพื่อนๆ อีก 28 คนเพื่อขึ้นเป็นหนึ่งในตำแหน่งเซ็มบัตสึ 16 คนในซิงเกิลลำดับที่ 1 อย่าง Aitakatta แต่ดูเหมือนว่าบทเพลงแห่งการพบเจอครั้งนี้อาจจะยังไม่ใช่เวทีของเธอ 

 

จิ๊บยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมในฐานะสมาชิก BNK48 อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการแสดงบนเธียเตอร์ในฐานะสมาชิกทีม BIII พร้อมทั้งหมั่นพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่เสมอ จนทำให้เธอเริ่มมีฐานแฟนคลับที่มองเห็นเสน่ห์และความสามารถของเธอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

รวมถึงเพื่อนร่วมวงอย่าง ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร ก็เคยพูดไว้ในภาพยนตร์เรื่อง Girls Don’t Cry (2561) ว่าจิ๊บคือคนที่มีความสามารถมากพอที่จะเป็นเซ็มบัตสึได้แน่นอน

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความกดดันที่อยู่ภายในใจของจิ๊บก็เพิ่มมากขึ้น เพราะไม่มีเลยสักครั้งที่เธอจะได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังขึ้นเมื่อมีการประกาศรายชื่อ 16 คนที่จะได้เป็นเซ็มบัตสึ ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิลใดก็ตาม 

 

ทำให้หลายคนเริ่มตัดสินกันไปว่าสาเหตุที่จิ๊บไม่ถูกเลือกเป็นเพราะเธอ ‘ยังพยายามไม่มากพอ’ และอยากให้เธอทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของเธอเอง เช่น ทำไมถึงไม่พูดให้เยอะ หรือต้องทำตัวให้น่ารักกว่านี้เพื่อให้ความนิยมในตัวเธอเพิ่มมากขึ้น

 

เราสามารถได้รับความนิยมโดยที่ยังรักษา ‘ตัวตน’ เอาไว้ได้ไหม 

 

เราต้องกลายเป็นคนอื่นเท่านั้นหรือ จึงจะถูกมองว่า ‘เหมาะสม’ 

 

ประโยคในเพลง Shonichi ที่สมาชิก BNK48 ต้องร้องซ้ำๆ เป็นร้อยเป็นพันครั้งว่า “คำว่าพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ” ยังเป็นจริงอยู่หรือเปล่า 

 

ทำไมดูเหมือนว่ายิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร จิ๊บต้องถูกความพยายามโบยตีจนบอบช้ำมากขึ้นทุกที 

 

 

จิ๊บกำลังฝึกซ้อมอยู่ด้านข้างในเวลาเดียวกับที่เพื่อนๆ ได้ขึ้นไปบนเวที จากภาพยนตร์เรื่อง Girls Don’t Cry

 

ไม่เพียงแค่นั้น จิ๊บยังต้องเผชิญหน้ากับการถูก Cyberbullying จากคนในโลกออนไลน์ที่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ด้วยการล้อเลียนภาพลักษณ์ภายนอกของเธออยู่ตลอดเวลา 

 

แต่แทนที่เจ้าของถ้อยคำไร้ความรับผิดชอบเหล่านั้นจะรู้สึกผิด กลับกลายเป็นจิ๊บเองที่ต้องออกมาโพสต์ข้อความขอโทษในเรื่องที่ไม่ใช่ความผิดของเธอแม้แต่นิดเดียว

 

“ขอโทษนะคะที่ไม่ได้หน้าตาดี”

 

 

การเผชิญหน้ากับคำดูถูกและต้องแบกรับความกดดันที่มหาศาลเหล่านี้เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง และคงไม่แปลกนักหากจิ๊บจะมีความคิดอยากประกาศจบการศึกษา (ลาออกจากวง) อยู่บ่อยครั้ง

 

แต่ยังดีที่ยังมีเหล่า ‘ถังดับเพลิง’ (กลุ่มแฟนคลับของจิ๊บ) คอยยืนอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้กับจิ๊บ เพื่อแสดงให้เห็นว่าต่อให้โลกภายนอกจะโหดร้าย แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมสนับสนุน เป็นน้ำที่คอยปกป้องไฟที่ลุกลามมาหา เป็นน้ำที่จะช่วยพัดพาและผลักดันให้เธอก้าวต่อไปได้ไกลที่สุด 

 

จริงอยู่ที่จิ๊บเลือกไม่ได้ว่าจะเกิดมาใน ‘เปลือก’ ที่ห่อหุ้มร่างกายแบบไหน จริงอยู่ที่เธอเคยท้อแท้และพลาดหวัง จริงอยู่ที่เธอเคยถูกคำว่า ‘พยายาม’ ทำร้ายให้เจ็บปวด แต่เรื่องที่จริงยิ่งกว่าสิ่งใดคือเธอไม่เคยหยุดที่จะ ‘พยายาม’ 

 

 

กำลังใจ คำขอบคุณ และเซ็มบัตสึ
หนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของจิ๊บและแฟนคลับคืองานเลือกตั้ง 6th Single Senbatsu General Election ที่แฟนคลับรวมพลังใจและกำลังทรัพย์เพื่อพาให้เธอขึ้นไปอยู่ในอันดับดีที่สุดในการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดให้ได้

 

เพราะในการเลือกตั้งครั้งแรก นอกจากที่จิ๊บจะต้องแข่งขันกับเพื่อนๆ สมาชิกรุ่นที่ 1 แล้ว การเปิดตัวของสมาชิกรุ่นที่ 2 เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ยิ่งทำให้มีการแข่งขันสูงขึ้นกว่าเดิม แต่ในท้ายที่สุดเหล่าถังดับเพลิงก็สามารถส่งให้เธอขึ้นไปสู่ตำแหน่งอันเดอร์เกิร์ลในอันดับที่ 32 ได้สำเร็จ    

 

“จริงๆ แล้วในวันที่ประกาศว่าได้อันดับที่เท่าไร เราก็คิดว่าคงไม่เสียใจ เพราะว่าทุกคนก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าเราจะยังอยู่ตรงนี้ ขอบคุณทุกคนมากนะคะ”

 

จิ๊บขึ้นไปกล่าวคำขอบคุณทุกคนบนเวที พร้อมกับคราบน้ำตาแห่งความยินดีที่บอกให้รู้ว่าอย่างน้อยสิ่งที่ทุ่มเทมาทั้งหมดก็เริ่มผลิดอกออกผลให้ ‘ไอดอลแห่งความพยายาม’ ได้ชื่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว

 

 

หลังจากนั้นนกน้อยเสียงใสคนนี้ก็ยังหมั่นฝึกฝนปีกเล็กๆ ให้แข็งแกร่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา และในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้ออกบินกับการติดเซ็มบัตสึครั้งแรกในซิงเกิลลำดับที่ 7 อย่าง 77 ดินแดนแสนวิเศษ 

 

เสียงแห่งความปลื้มปีติของเหล่าแฟนคลับดังขึ้นทันทีที่ชื่อของจิ๊บดังขึ้นมา รวมถึง เต๋อ-นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับที่เคยถ่ายทอดเรื่องราวของเธอผ่านภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Girls Don’t Cry ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน

 

“นายทำได้แล้วว่ะ ยินดีด้วยจริงๆ 🙂”

 


 

 

 

I can’t be you, It’s me.
เสียงใสๆ ที่ย้ำซ้ำๆ ว่า ‘นี่คือฉัน’ ในเพลง It’s Me คือหนึ่งใน ‘รางวัล’ แห่งความพยายาม หลังจากเธออดทนก้าวผ่านทุกคำเหยียดหยาม ตัดสิน เปรียบเทียบ อุปสรรค และบทพิสูจน์มากมาย เพื่อให้ผู้ชมได้มองเห็น ‘คุณค่า’ และ ‘ตัวตน’ ที่อยู่ภายในตัวนกน้อยที่ไม่เคยหยุดบินคนนี้

 

และนี่ไม่ใช่จุดหมายปลายทางบนท้องฟ้าอันกว้างไกล แต่เป็นเพียงอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นเส้นทางชีวิตในฐานะไอดอลที่เธอยังคงต้องออกโบยบินเพื่อเรียนรู้โลกนี้ต่อไปเรื่อยๆ รวมทั้งการเผชิญหน้ากับลมพายุลูกใหม่ที่จะต้องเข้ามาพิสูจน์ความเข้มแข็งของปีกเล็กๆ คู่นี้อีกครั้งในอนาคต

 

แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่เราสัมผัสได้คือกำลังใจที่จิ๊บส่งให้กับเหล่าแฟนคลับและทุกๆ คนที่กำลังไล่ตามความฝันเช่นเดียวกับเธอผ่านบทเพลงนี้ ที่ย้ำให้รู้ว่าถึงแม้จะพยายามมากแค่ไหนเราก็ไม่สามารถเป็นคนอื่นได้ ขอแค่เชื่อมั่นและภูมิใจในสิ่งที่เป็นเข้าไว้ และก้าวต่อไปในเส้นทางที่เลือกเดิน 

 

เพราะเราทุกคนต่างเป็น ‘เซ็นเตอร์’ ในบทเพลงแห่งชีวิตของตัวเอง 

 

จริงใจกับตัวเองเข้าไว้ นี่คือจิ๊บ BNK48

 

จริงใจกับตัวเองเข้าไว้ นี่คือฉัน

 

จริงใจกับตัวเองเข้าไว้ นี่คือตัวตนของเราทุกคน

 

สามารถรับชม MV เพลง It’s me ได้ทาง

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

ภาพประกอบ:

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising