×

จับตาหุ้นกู้ ITD ส่อเบี้ยวหนี้ ขอยืดจ่ายหนี้อีก 2 ปี ทั้ง 5 รุ่นวงเงินรวม 1.45 หมื่นล้านบาท แลกจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25-0.50%

08.01.2024
  • LOADING...
ITD

บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ แจ้งขอเลื่อนจ่ายหนี้หุ้นกู้ 2 ปี แลกให้ดอกเบี้ยให้ผู้ถือหุ้นกู้เพิ่ม จ่อส่งจดหมายเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้วันที่ 17 มกราคมนี้ โหวตเลี่ยง Default อ้างหลายปัจจัยลบกระทบทั้งดอกเบี้ยขาขึ้น-งานก่อสร้างหด พร้อมระบุมีหลายแบงก์กำลังพิจารณาให้เงินกู้ใหม่

 

นิจพร จรณะจิตต์ กรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า (ตลท.) ในฐานะผู้ออกหุ้นเห็นสมควรให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกชุดในวันที่ 17 มกราคม 2567 แต่แยกการนับองค์ประชุมและการลงมติในรูปแบบการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) หลังจากปิดสมุดทะเบียนพักการโอนกรรมสิทธิ์วันที่ 3 มกราคม 2567

          

โดยมีวาระการประชุม มีดังนี้

          

วาระที่ 1 ขอผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ตามที่กำหนดในข้อกำหนดสิทธิ โดยให้มีผลตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชีของปี 2566 จนถึงวันสิ้นสุดรอบปีบัญชีของปี 2568 และผ่อนผันให้ผู้ออกหุ้นกู้ดำเนินการเจรจา หรือเข้าทำสัญญาใดๆ กับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ

          

วาระที่ 2 ขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี โดยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีก 0.25% ต่อปี (นับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจนถึงวันครบ 1 ปีจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม) และเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีก 0.50% ต่อปี (นับแต่วันถัดจากวันครบ 1 ปีจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจนถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่) โดยจะชำระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดเพียงครั้งเดียวในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ใหม่ (ที่ขยายออกไป)  

          

ทั้งนี้ บริษัทได้ดำรงอัตรา D/E Ratio ตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้มาโดยตลอด แต่เนื่องจากในช่วงหลังจากสิ้นงวดบัญชีของไตรมาส 2/2566 สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังคงอยู่ในช่วงปรับตัว ซึ่งรวมถึงโครงการต่างๆ ของบริษัทยังคงอยู่ในช่วงดำเนินการ และ/หรืออยู่ระหว่างการส่งมอบให้กับลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ

          

อีกทั้งช่วงปี 2566 มีปัจจัยภายนอกหลายประการที่กระทบกับการประกอบธุรกิจของบริษัท เช่น สถานการณ์สงครามในต่างประเทศ ราคาวัสดุและน้ำมันที่สูงขึ้น การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงทำให้ต้นทุนการทำงานของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น 

 

รวมทั้งการเมืองในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลล่าช้า ส่งผลกระทบกับโครงการภาครัฐต่างๆ ที่ชะลอตัวลงจากแผนงานเดิม ทำให้บริษัทซึ่งมีงานของภาครัฐเป็นจำนวนมากประสบปัญหาปริมาณงานลดลงไม่เป็นไปตามประมาณการ ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจคาดหมายได้เหล่านี้ ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องเจรจากับเจ้าหนี้ต่างๆ ของบริษัท ทั้งเจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้และเลื่อนการชำระหนี้ของบริษัทให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทด้วย                     

          

นอกจากนี้บริษัทยังมีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาใช้ในโครงการงานต่างๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจของบริษัท ซึ่งการได้รับสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินในครั้งนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทผ่านพ้นปัญหาการขาดเงินทุนหมุนเวียน สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ก่อสร้างโครงการต่างๆ ไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ การให้การสนับสนุนเงินกู้จากสถาบันการเงินดังกล่าวมีเงื่อนไขสำคัญว่า บริษัทจะต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทร่วมด้วย จึงจำเป็นจะต้องจัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในครั้งนี้

          

โดยขณะนี้สถาบันการเงินหลายแห่งในประเทศกำลังพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่บริษัท ซึ่งจะมีผลกระทบกับหน้าที่ของบริษัทตามข้อกำหนดสิทธิในการดำรง D/E โดย D/E ตามงบการเงินรวมของบริษัท ณ ไตรมาส 3/66 เท่ากับ 2.893 เท่า โดยหากบริษัทได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่จะทำให้ D/E สูงขึ้นเกินกว่า 3 เท่า จึงต้องขอผ่อนผันการดำรง (D/E) และขอผ่อนผันให้สามารถเจรจาหรือทำสัญญากับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด

         

อีกทั้งจากสถานการณ์ในตลาดตราสารหนี้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นกู้ ไม่เอื้ออำนวยเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน ที่อาจทำให้การออกจำหน่ายหุ้นกู้รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอน (Roll Over) มีความเสี่ยงต่อบริษัทและนักลงทุนเพิ่มขึ้น และจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการดำเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทจึงได้พิจารณาในการขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนแทนการออกหุ้นกู้รุ่นใหม่ๆ มาเพื่อทดแทนรุ่นเดิมที่จะครบกำหนดในปี 2567, 2568 และ 2569 จำนวน 5 รุ่น รวมมูลค่าคงค้าง 14,455 ล้านบาท 

 

สำหรับรายละเอียดการปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ของหุ้นกู้จากการขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี มีรายละเอียดดังนี้

 

  • หุ้นกู้รุ่น ITD242A เดิมครบกำหนดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 มูลค่าคงค้าง 2,000 ล้านบาท ให้อัตราดอกเบี้ยใหม่ปีที่ 1 คงที่ 5.50% ต่อปี (16 กุมภาพันธ์ 2567 – 15 กุมภาพันธ์ 2568) และปีที่ 2 คงที่ 5.75% ต่อปี (16 กุมภาพันธ์ 2568 – 15  กุมภาพันธ์ 2569)

 

  • หุ้นกู้รุ่น ITD24DA เดิมครบกำหนดวันที่ 4 ธันวาคม 2567 มูลค่าคงค้าง 2,455 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยใหม่ปีที่ 1 คงที่ 6.05% ต่อปี (5 ธันวาคม 2567 – 4 ธันวาคม 2568) และปีที่ 2 คงที่ 6.30% ต่อปี (5 ธันวาคม 2568 – 4 ธันวาคม 2569)

 

  • หุ้นกู้รุ่น ITD254A เดิมครบกำหนดวันที่ 29 เมษายน 2568 มูลค่าคงค้าง 6,000 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยใหม่ปีที่ 1 คงที่ 5.75% ต่อปี (30 เมษายน 2568 – 29 เมษายน 2569) และปีที่ 2 คงที่ 6 % ต่อปี (30 ธันวาคม 2569 – 29 ธันวาคม 2570)

 

  • หุ้นกู้รุ่น ITD266A เดิมครบกำหนดวันที่ 2 มิถุนายน 2569 มูลค่าคงค้าง 2,785 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยใหม่ปีที่ 1 คงที่ 6.45% ต่อปี (3 มิถุนายน 2569 – 2 มิถุนายน 2570) และปีที่ 2 คงที่ 6.70% ต่อปี (3 มิถุนายน 2570 – 2 มิถุนายน  2571)

 

  • หุ้นกู้รุ่น ITD24DB เดิมครบกำหนดวันที่ 4 ธันวาคม 2567 มูลค่าคงค้าง 1,215 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยใหม่ปีที่ 1 คงที่ 5.25% ต่อปี (5 ธันวาคม 2567- 4 ธันวาคม 2568) และปีที่ 2 คงที่ 5.50% ต่อปี (5 ธันวาคม 2568 – 4 ธันวาคม 2569)
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising