เมื่อวานนี้ (6 พฤษภาคม) ศาลสูงสุดของอิสราเอลมีมติเห็นชอบยกไฟเขียวต่อแผนการจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างขั้วรัฐบาลที่นำโดย เบนจามิน เนทันยาฮู หัวหน้าพรรค Likud และ เบนนี กันท์ซ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรค Blue and White ซึ่งมติดังกล่าวจะเปิดทางให้เนทันยาฮูสามารถนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศต่อไปได้อีก 18 เดือน แม้มีคดีอาญาติดตัวเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันที่จะเปิดการไต่สวนในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้
ศาลสูงระบุว่า เนทันยาฮูไม่ขาดคุณสมบัติในการนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และแผนการจัดตั้งรัฐบาลผสมดังกล่าวก็ไม่ขัดต่อกฎหมายของอิสราเอลที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่า ข้อตกลงนี้อาจช่วยปกป้องเนทันยาฮูจากคดีความที่เขามีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
โดยแผนการนี้จะครอบคลุมระยะเวลา 3 ปี ก่อนที่จะจัดการเลือกตั้งอีกครั้งก่อนปี 2024 จะมาถึง โดยช่วงแรกเนทันยาฮูจะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ขณะที่กันท์ซจะนั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งทั้งสองคนจะสลับกันนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนละ 18 เดือน
นับเป็นความพยายามครั้งสำคัญของสองขั้วอำนาจใหญ่ในเกมการเมืองอิสราเอล เพื่อยุติภาวะสุญญากาศทางการเมือง หลังจากที่การเลือกตั้งถึง 3 ครั้งเมื่อเดือนเมษายนและกันยายน 2019 รวมถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งสองพรรคใหญ่ได้รับคะแนนเสียงใกล้เคียงกันมาก และส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองในระยะยาว
คาดว่ารัฐบาลผสมชุดใหม่นี้จะเริ่มเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 13 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ เพื่อผลักดันวาระเร่งด่วนต่างๆ ที่อิสราเอลจำเป็นต้องใช้รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ โดยจำเป็นจะต้องได้รับเสียงสนับสนุน 61 จาก 120 เสียงจากรัฐสภา ล่าสุดอิสราเอลมีผู้ป่วยโควิด-19 ราว 1.6 หมื่นราย รักษาหายแล้ว 1 หมื่นราย เสียชีวิตแล้ว 239 ราย
ภาพ: Artur Widak / NurPhoto via Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: