สำนักข่าว BBC รายงานข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองชาวเคิร์ด ที่ยืนยันว่าตอนนี้ กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือ IS นั้นกำลังรวมตัวและกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่พ่ายแพ้และสูญเสียดินแดนที่ยึดครองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ลาฮูร์ ตาลาบานี หัวหน้าหน่วยต่อต้านก่อการร้ายของกองกำลังชาวเคิร์ดในอิรัก ระบุว่ากองกำลัง IS ในตอนนี้ มีทักษะที่มากขึ้นและอันตรายมากยิ่งกว่ากลุ่มอัลกออิดะห์
“พวกเขามีเทคนิคที่ดีขึ้น ยุทธวิธีที่ดีขึ้น และมีเงินเพิ่มขึ้นอีกมากจากการขายทรัพย์สิน พวกเขาสามารถซื้อรถ อาวุธ เสบียงอาหารและอุปกรณ์ต่างๆ เทคโนโลยีทำให้พวกเขามีศักยภาพที่มากขึ้น มันยากกว่ามากที่จะขับไล่พวกเขาออกไป พวกเขาเหมือนอัลกออิดะห์ที่ฉีดสเตียรอยด์ให้แข็งแกร่งขึ้น” ตาลาบานี กล่าว
ตาลาบานี ชี้ว่า IS มีความเคลื่อนไหวในการก่อความรุนแรงมากขึ้นในตอนนี้ และเชื่อว่าขั้นตอนการรวมตัวสร้างองค์กรใหม่นั้นสิ้นสุดลงแล้ว
ขณะที่เป้าหมายและยุทธวิธีของ IS นั้นเปลี่ยนไป พวกเขาไม่ต้องการยึดครองดินแดนใดๆ อีก เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมาย และตามรอยอัลกออิดะห์ ด้วยการมุ่งหน้าลงใต้ดิน ในเทือกเขาฮัมริน
“นี่คือศูนย์กลางของ IS ในตอนนี้ มันเป็นเทือกเขาระยะทางยาวและยากมากสำหรับกองทัพอิรักที่จะควบคุม เพราะมีที่หลบซ่อนและถ้ำมากมาย” ตาลาบานี กล่าว พร้อมเตือนว่าความวุ่นวายทางการเมืองในแบกแดด จะยิ่งส่งเสริม IS ให้เข้มแข็งขึ้น
“หากเรามีความวุ่นวายทางการเมือง นี่คือสวรรค์หรืองานฉลองคริสต์มาสล่วงหน้าสำหรับ IS”
กลุ่ม IS ยังได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์อันตึงเครียดขึ้นระหว่างรัฐบาลอิรักกับรัฐบาลท้องถิ่นของชาวเคิร์ด หลังจากที่รัฐบาลชาวเคิร์ดทำประชามติแยกตัวเป็นเอกราชในปี 2017 ทำให้ตอนนี้มีดินแดนว่างเปล่าไร้ผู้ควบคุมมากมายทางตอนเหนือของอิรัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่กึ่งกลางระหว่างดินแดนภายใต้การควบคุมของกองกำลังความมั่นคงเปชเมอร์กาของชาวเคิร์ด และกองทัพรัฐบาลอิรัก โดยมีเพียงกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวอยู่ในดินแดนเหล่านี้ คือ IS เห็นได้จากความเคลื่อนไหวและการก่อเหตุโจมตีในพื้นที่ ซึ่งเกิดขึ้นแทบทุกวัน
ข่าวกรองจากกองกำลังเปชเมอร์กา ยังชี้ว่า IS ได้นักรบหน้าใหม่กว่า 100 คนที่ข้ามชายแดนมาจากซีเรีย รวมถึงนักรบต่างชาติที่มาพร้อมเข็มขัดระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเปรียบได้กับยุคก่อตั้งและขยายอำนาจของ IS ใน ปี 2012 ที่เริ่มรวมกองกำลังและเก็บภาษีจากประชาชนใต้อาณัติ และในปีหน้า พวกเขาจะรวมกองกำลังได้มากกว่านี้ ขยายอำนาจมากขึ้นและก่อเหตุโจมตีมากขึ้น
ด้านพลจัตวา วิลเลียม ซีลีย์ ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ในอิรัก กล่าวว่า IS กำลังพยายามสร้างตนเองขึ้นใหม่ แต่ต้องเผชิญกับการรับมือจากกองทัพอิรักและกองกำลังชาวเคิร์ด ซึ่งมีการเตรียมพร้อมที่ดีกว่าในปี 2014 ซึ่งอิรักบุกยึดดินแดนในอิรักไปได้มากกว่า 1 ใน 3 รวมถึงเมืองโมซูล เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
“ISF (กองกำลังความมั่นคงอิรัก) และนักรบเปชเมอร์กา ไม่ใช่กองกำลังแบบในตอนที่โมซูล ถูกยึดครอง เราอยู่ที่นี่เพิ่มการฝึกฝนให้พวกเขา ISF ยังตรึงกำลังเพื่อให้แน่ใจว่าการต่อต้านไอเอสยังคงเหนียวแน่น” พลจัตวา ซีลีย์ กล่าว
พลจัตวา ซีลีย์ ยังเผยว่า ในช่วง 1 เดือน นับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ISF ได้ปฏิบัติการกวาดล้างและทำลายอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบระเบิดไปแล้วกว่า 170 ครั้ง ขณะที่เขาเชื่อมั่น ว่านักรบ IS ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและในทะเลทรายนั้น ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพที่ไม่มีใครรับมือได้เป็นเวลานาน และไม่สามารถเคลื่อนไหวก่อการทีละมากๆ ได้ ซึ่งจำนวนมากสุดที่เห็นในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา คือ 15 คน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
