สหรัฐฯ แคนาดา และสหราชอาณาจักร เชื่อว่าเครื่องบิน Boeing 737 ของสายการบินยูเครนที่ตกหลังบินออกจากสนามบินเตหะรานจนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้ง 176 รายนั้นอาจถูกยิงตกกลางอากาศโดยไม่ตั้งใจด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร เชื่อมั่นว่าอิหร่านเป็นผู้ยิงเครื่องบินโดยสารยูเครนตกเมื่อวันพุธ (8 มกราคม) หลังหน่วยข่าวกรองของชาติตะวันตกให้ข้อสรุปว่าเครื่องบินน่าจะถูกยิงตกโดยอุบัติเหตุ
ภาพถ่ายและวิดีโอจากดาวเทียมสหรัฐฯ เผยให้เห็นขีปนาวุธแบบพื้นผิวสู่อากาศถูกปล่อยออกจากอิหร่านก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สงสัยว่าอาจมีเศษซากของขีปนาวุธใกล้กับจุดตกของเครื่องบิน
ภาพวิดีโออีกคลิปที่ The New York Times ได้รับมาเผยให้เห็นวินาทีขณะขีปนาวุธของอิหร่านยิงถูกเครื่องบินใกล้กับสนามบินเตหะราน และเห็นการระเบิดกลางอากาศ แต่ตัวเครื่องบินไม่ได้ระเบิดทันที หลังถูกยิงแล้วเครื่องบินยังบินต่ออีกหลายนาทีและพยายามหันหัวกลับสนามบิน
The New York Times รายงานว่าเครื่องบินหยุดส่งสัญญาณหลังถูกยิง มีไฟลุกไหม้ที่ตัวเครื่องขณะกำลังบินกลับสนามบิน จากนั้นเครื่องบินได้ระเบิดและตกลงมาอย่างรวดเร็วในเขตเมืองพาแลนด์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน
สำหรับผู้เสียชีวิตจากเที่ยวบิน PS752 นี้ แบ่งเป็นผู้โดยสาร 167 คน และลูกเรือ 9 คน ประกอบด้วยชาวอิหร่าน 82 คน, แคนาดา 63 คน, ยูเครน 11 คน, สวีเดน 10 คน, อัฟกานิสถาน 4 คน, เยอรมัน 3 คน และอังกฤษ 3 คน
ด้านคณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐฯ (NTSB) ยืนยันว่าจะเข้าไปสอบสวนหาสาเหตุการตกของเครื่องบินยูเครนครั้งนี้ เช่นเดียวกับทางการยูเครนก็เปิดฉากสอบสวนในเรื่องนี้แล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ตามกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศแล้ว ยูเครนสามารถเข้าไปร่วมตรวจสอบหาสาเหตุการตกในฐานะผู้ให้บริการสายการบินเช่นเดียวกับบริษัท Boeing ที่เป็นผู้ออกแบบและผลิตเครื่องบิน
ก่อนหน้านี้อิหร่านปฏิเสธส่งกล่องดำกลับไปให้สหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบ โดยยืนกรานว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากปัญหาทางเทคนิค ขณะเดียวกันผู้อำนวยการองค์การการบินพลเรือนของอิหร่านได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าอิหร่านทำให้เครื่องบินตกด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศ
อุบัติเหตุเครื่องบินตกเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศในอิรัก 2 แห่ง ซึ่งสำนักข่าว CBS ของสหรัฐฯ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่าเมื่อดูจากเวลาแล้วอิหร่านอาจเข้าใจผิดโดยคิดว่าเครื่องบินโดยสารของยูเครนเป็นเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ดังนั้นจึงยิงเครื่องบินดังกล่าวตก
ส่วนอาวุธที่ใช้นั้น Newsweek รายงานอ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอนและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิรัก ระบุว่าเป็นระบบขีปนาวุธ Tor ที่ผลิตโดยรัสเซีย มีพิสัยทำการไกล 500 กิโลเมตร
ด้าน ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าข้อเท็จจริงจะปรากฏหลังจากกระบวนการสืบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งหากเป็นไปตามข้อสันนิษฐานจะถือเป็นโศกนาฏกรรม เพราะเป็นอิหร่านที่คร่าชีวิตชาวอิหร่านบนแผ่นดินของอิหร่าน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
