วันนี้ (21 เมษายน) พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของเน็ตไอดอล และนักเรียนเตรียมทหาร ว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต. อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยืนยันว่านักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตจริง เนื่องจากมีพยานรู้เห็นจำนวนมาก
ซึ่งพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนจะต้องชี้แจงรายละเอียดของคดีให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จะเอาผิดใครได้หรือไม่นั้นต้องรอผลการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนเช่นกัน ซึ่งได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ไปแล้ว ให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และสามารถชี้แจงความคืบหน้าแก่สื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์กล่าวต่ออีกว่า กรณีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ต้องเชิญบิดาของนักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเป็นเจ้าของปืน มาให้ปากคำ เพื่อให้ทราบว่านักเรียนเตรียมทหารได้ปืนมาอย่างไร ซึ่งต้องรอหลังเสร็จสิ้นงานศพจึงจะเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ขอฝากเตือน เนื่องจากหนึ่งในผู้เสียชีวิตยังเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ยังอยู่ในความคุ้มครองของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก การโพสต์ข้อมูลต่างๆ ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ผู้เสียชีวิตนั้นอาจเข้าข่ายความผิดได้ จึงต้องโพสต์ข้อมูลด้วยความระมัดระวัง
ด้าน พล.ต.ต. อัฏธพรกล่าวว่า ขณะนี้มีการตั้งคณะทำงานชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีที่กองพิสูจน์หลักฐานและโรงพยาบาลรามาธิบดี ส่วนชุดสืบสวนไปเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมที่สถานที่เกิดเหตุและกลับมารายงาน เบื้องต้นตรวจพบคราบเขม่าดินปืนที่มือของนักเรียนเตรียมทหาร ที่ตรวจพบจากศพเพียงรายเดียว
ส่วนพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุน 1 หัว ซึ่งยังหาอีกหนึ่งหัวไม่เจอ ปรากฏว่าล่าสุดได้รับรายงานจากแพทย์ว่าพบฝังอยู่ที่ศีรษะของนักเรียนเตรียมทหาร เบื้องต้นจึงนำหัวกระสุนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุ