×

ตลาดหุ้นอินเดียแซงหน้าฮ่องกงขึ้นเป็นตลาดใหญ่อันดับ 7 ของโลก หลังดัชนีพุ่ง 16% ในปีนี้

12.12.2023
  • LOADING...
ตลาดหุ้นอินเดีย ฮ่องกง

หลังการปรับตัวขึ้นลงสวนทางกันของตลาดหุ้นอินเดียและตลาดหุ้นฮ่องกง ล่าสุดมูลค่าตลาดหุ้นอินเดียได้แซงหน้าตลาดหุ้นฮ่องกง กลายเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก หนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สวนทางกับฮ่องกงที่กำลังถูกกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

ข้อมูลจาก World Federation of Exchanges ระบุว่า มูลค่าตลาดหุ้นอินเดีย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อยู่ที่ 3.989 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าตลาดหุ้นฮ่องกงที่ 3.984 ล้านล้านดอลลาร์ 

 

ดัชนี Nifty 50 ของอินเดีย แตะระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งในวันนี้ (12 สิงหาคม) ทำให้ดัชนีพุ่งขึ้นถึง 16% แล้วในปีนี้ และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ในทางกลับกันดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง ดิ่งลงถึง 17% ในปีนี้

 

ในปีนี้อินเดียกลายเป็นดาวเด่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยสภาพคล่องในตลาดที่เพิ่มขึ้น การมีส่วนร่วมบนเวทีโลก และการปรับตัวตามสภาพตลาดโลกที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ต่ำลง ล้วนมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นของอินเดีย

 

และในปีหน้าอินเดียจะเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งนักวิเคราะห์จาก HSBC คาดว่าอาจเป็นชัยชนะอีกครั้งของพรรคภารติยะชนตะ ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยมที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน และอาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในช่วง 3-4 เดือนแรกจากความต่อเนื่องของนโยบาย

 

HSBC เชื่อว่าภาคธนาคาร สุขภาพ และพลังงาน จะเป็นภาคส่วนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปีหน้า ขณะที่อุตสาหกรรมอย่างยานยนต์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ และโทรคมนาคม ก็อยู่ในสถานะที่ค่อนข้างดีเช่นกัน แต่สินค้าอุปโภคบริโภค สาธารณูปโภค และเคมีภัณฑ์ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่น่าสนใจมากนัก

 

ในทางกลับกัน ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และกลายเป็นดัชนีที่ให้ผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Moody’s ปรับลดมุมมองต่อตลาดฮ่องกงจากคงที่เป็นลบ โดยให้เหตุผลจากความสัมพันธ์ทางการเงิน การเมือง และเศรษฐกิจของฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่กำลังเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจรุมเร้า

 

ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลฮ่องกงคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 3.2% ในปีนี้ หลังจากที่เคยปรับลดแนวโน้มการเติบโตของ GDP จาก 5% เหลือ 4% เมื่อเดือนสิงหาคม

 

นอกจากนี้รัฐบาลฮ่องกงยังได้เตือนถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวยังคงส่งผลกระทบต่อการลงทุน การส่งออกสินค้า และตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising