×

In the Mood for Love สำรวจความเหงาที่เอ่อล้นและถูกถักทอจนกลายเป็นความผูกพัน

23.10.2020
  • LOADING...

* บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์เรื่อง In the Mood for Love *

 

ควันบุหรี่ แสงไฟซึมเซา บรรยากาศแสนเหงา บทเพลงเร้าอารมณ์ บวกกับการตัดต่ออันเฉียบคม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้กำกับชาวฮ่องกง หว่องกาไว ที่ทำให้คอภาพยนตร์หลายคนต่างหลงใหลไปกับเรื่องราวความสัมพันธ์เปลี่ยวเหงาที่เขามักหยิบมานำเสนอ

 

แม้โดยพื้นฐานจะเป็นคนชอบดูภาพยนตร์และเคยได้ยินคนพูดถึงพฤติกรรม ‘กระทำการหว่อง’ มาหลายครั้ง แต่ผู้เขียนมักจะถูกหน้าหนังและบรรยากาศเชื่องช้า หลอกตาว่าผลงานของหว่องกาไวน่าจะดูยากและกินพลังงานสูง จนไม่เคยได้รับชมผลงานของเขาจริงๆ สักที

 

ล่าสุดเมื่อ สหมงคลฟิล์ม ได้หยิบนำผลงานระดับขึ้นหิ้งของหว่องกาไวอย่าง In the Mood for Love (2000) กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของภาพยนตร์เรื่องนี้ เลยเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เขียนจะขอลองเป็น ‘มือใหม่หัดหว่อง’ ดูสักครั้ง

 

 

In the Mood for Love บอกเล่าเรื่องราวของ คุณนายชาน (จางม่านอวี้) และ คุณเชา (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่ย้ายมาอยู่ในห้องเช่าติดกันในวันเดียวกันพอดี ทั้งสองต่างแต่งงานและมีคู่ครองแล้ว แต่ชีวิตคู่ของแต่ละฝ่ายกำลังจืดจางและมาถึงทางตันจนไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเท่าที่ควร ผิดกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เริ่มผูกพันกันมากขึ้นจนกลายเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามที่ไม่ว่าใครก็ยากจะห้ามใจได้

 

 

ถ้าพูดถึงคนไม่เคยกระทำการหว่องมาก่อน เรารู้สึกว่าการได้รับชม In the Mood for Love ถือเป็นประสบการณ์ชมภาพยนตร์ที่ค่อนข้างพิเศษเป็นการส่วนตัว เพราะหนึ่งในความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการบอกเล่าเรื่องราวอันเรียบง่ายด้วยกลวิธีทางภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะและแฝงนัยที่ชวนให้ผู้ชมร่วมขบคิด

 

เริ่มตั้งแต่การจัดองค์ประกอบภาพที่จัดให้ผู้ชมทำหน้าที่ ‘แอบมอง’ เรื่องราวที่เกิดขึ้นของคุณนายชานและคุณเชา พร้อมด้วยการเลือกใช้สถานที่ถ่ายทำที่มีความคับแคบ เบียดเสียด เพื่อแฝงนัยของความรู้สึกที่อึดอัดและคับข้องใจของเขาและเธอที่มีต่อกัน

 

รวมถึงการเลือกใช้แสงและสีของภาพที่ดูหม่นๆ ซึมเซา แต่ก็ค่อนไปในโทนอุ่น (Warm Tone) เป็นส่วนใหญ่ ก็อาจตีความได้ถึงความรู้สึกอันร้อนรุ่มของคุณนายชานและคุณเชาที่กำลังโหยหาและต้องการกันและกันในขณะที่ ‘แหวนแต่งงาน’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันที่ตัวละครทั้งสองสวมเอาไว้ก็สามารถสื่อได้ถึง ‘ข้อผูกมัด’ ที่ทั้งคู่ไม่สามารถถอดออกได้ 

 

และการเลือกใช้บทเพลงเร้าอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกถึงความลึกลับ ก็อาจตีความได้ถึงความผูกพันที่คุณนายชานและคุณเชาต้องเก็บซ่อนเอาไว้เพื่อไม่ให้ถูกผู้คนรอบข้างซุบซิบนินทา และการฉายภาพของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตั้งอยู่ในออฟฟิศของทั้งคู่ ก็อาจตีความได้ถึงช่วงเวลาที่ค่อยๆ ผ่านเลยไป แต่ความรู้สึกของพวกเขากลับยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่คืบหน้าไปไหน

 

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเรื่องคือการแสดงของ จางม่านอวี้ ผู้รับบทเป็น คุณนายชาน ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ตั้งแต่ดวงตาเฉียบคมชวนให้เราหลงใหล ในขณะเดียวกันเธอก็ได้ถ่ายทอดอามณ์อันซับซ้อนผ่านสายตาคู่นั้น แทนการบอกเล่าผ่านคำพูดได้อย่างยอดเยี่ยม 

 

รวมถึง เหลียงเฉาเหว่ย ผู้รับบทเป็นคุณเชา ที่ถ่ายทอดบุคลิกอันเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยอารมณ์อ่อนไหวออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกใจนักที่เขาจะได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Cannes Film Festival 2000

 

 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงอาจกล่าวได้ว่าประสบการณ์ที่เราได้รับจาก In the Mood for Love คือความสนุกที่ได้นั่งขบคิดและตีความนัยต่างๆ ที่หว่องกาไวได้แอบซ่อนเอาไว้ผ่านกลวิธีการเล่าเรื่องที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะ ไปพร้อมๆ ติดตามเรื่องราวอันเปลี่ยวเหงาปนถวิลหาของคุณนายชานและคุณเชา

 

แต่ในขณะเดียวกันเราคิดว่าภาพยนตร์ของหว่องกาไวเรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่มเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่เรียบง่ายและไม่มีจุดที่ชวนให้เรารู้สึกตื่นเต้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อได้ไม่ยาก

 

แต่เราก็คิดว่าการได้มานั่งชม In the Mood for Love ในบรรยากาศของโรงภาพยนตร์สักครั้ง ก็ถือเป็นโอกาสที่หาไม่ได้บ่อยๆ เช่นกัน 

 

หรืออย่างน้อยที่สุด การได้มารับชม In the Mood for Love ในครั้งนี้ก็ทำให้เราเข้าใจว่า ‘กระทำความหว่อง’ ที่ใครหลายคนมักพูดกันนั้นเป็นอย่างไร 

 

In the Mood for Love มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ที่โรงภาพยนตร์ House Samyan, Major Cineplex, SF Cinema.

 

สามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ผ่านทาง

 

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

ภาพประกอบโดย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising