เจ้าหน้าที่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ควรดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป เพื่อทำให้แน่ใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ได้อย่างยั่งยืน แต่เตือนว่าการแทรกแซงค่าเงินของรัฐบาลญี่ปุ่นไม่น่าจะช่วยพยุงเงินเยนได้อย่างยั่งยืน
Sanjaya Panth รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei ว่าอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นกำลังเพิ่มขึ้น แต่จะเป็นการเพิ่มขึ้นจากปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น เช่น การเพิ่มจากฝั่งราคาพลังงาน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าแรงเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน และส่งต่อไปยังเงินเฟ้อเท่าไร เพื่อให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ด้วยเหตุนี้ BOJ จึงควรผ่อนคลายนโยบายทางการเงินต่อไป และ IMF สนับสนุนจุดยืนในปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เงินเยน อ่อนทะลุ 145 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง! ใกล้ระดับแทรกแซงครั้งก่อน ด้าน รมว.คลังญี่ปุ่น ประกาศพร้อมดำเนินการตามความจำเป็น
- ร้านโอมากาเสะทั่วโลกขาดแคลน ‘เชฟซูชิชาวญี่ปุ่น’ แย่งตัวกันอุตลุด ยิ่งได้ภาษาจะถูกเสนอค่าจ้างสูงถึง 2.2 ล้านบาทต่อปี
- ‘ญี่ปุ่น’ แชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลปี 2022 เที่ยวได้ 193 จุดหมายปลายทางโดยไม่ต้องขอวีซ่า ขณะไทยตกไปอยู่อันดับที่ 70
ในด้านนโยบายการคลัง เจ้าหน้าที่ IMF กล่าวว่า ญี่ปุ่นมีโอกาสเพิ่มการใช้จ่ายในระยะสั้น รวมทั้งสนับสนุนมาตรการแบบกำหนดเป้าหมาย (Targeted Support Measures) สำหรับผู้ที่เปราะบางจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาพลังงานที่สูง
อย่างไรก็ตาม ในระยะกลาง มาตรการรัดเข็มขัดทางการคลัง (Fiscal Consolidation) เป็นสิ่งสำคัญมาก โดย IMF กำลังจับตามองนโยบาย ‘New Capitalism’ ซึ่งมุ่งยกระดับทุนมนุษย์และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ อย่างใจจดใจจ่อว่าญี่ปุ่นจะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ในแง่ที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร
นอกจากนี้ Panth ยังมองว่าการอ่อนค่าของเงินเยนเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ (Natural Phenomenon) จากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น แต่การแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นไม่น่าจะเป็นมาตรการที่ยั่งยืน
“เงินเยนเป็นหนึ่งในตลาดที่มีสภาพคล่องมากที่สุดของโลก ดังนั้นการแทรกแซงที่ผ่านมาจึงถือว่าค่อนข้างเล็ก และจะไม่ส่งผลกระทบระยะยาวต่อเยนมากนัก โดยการแทรกแซงที่จะเห็นผลเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อตลาดการเงินเกิดความผิดปกติ หรือมีปัญหาในการรักษาเสถียรภาพของการคาดการณ์เงินเฟ้อ” Panth กล่าว
อ้างอิง: