ไอซ์แลนด์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย หลังภูเขาไฟบนคาบสมุทรเรคยาเนสปะทุขึ้นเป็นครั้งที่ 4 เมื่อวานนี้ (16 มีนาคม) โดยมีเขม่าควันพวยพุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ลาวาไหลทะลักเป็นวงกว้างและส่องสว่างเป็นสีส้มแดงท่ามกลางความมืดมิด
ลาวาไหลลงพื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ใกล้กับพื้นที่เมืองกรินดาวิก เป็นเหตุให้ทางการท้องถิ่นเร่งอพยพผู้คนบางส่วนออกจากที่พักอาศัยของตนแล้ว รวมถึงบลูลากูน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไอซ์แลนด์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายแต่อย่างใด
เหตุภูเขาไฟทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ที่ปะทุหนักเมื่อปี 2010 เคยทำให้เขม่าควันลอยฟุ้งกระจายไปทั่วน่านฟ้าหลายประเทศในยุโรป เป็นเหตุให้ต้องระงับเที่ยวบินกว่า 1 แสนเที่ยวบิน เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำลง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การปะทุของภูเขาไฟแถบคาบสมุทรเรคยาเนสจะเป็นการปะทุของรอยแยก (Fissure Eruption) ซึ่งโดยปกติจะไม่ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่หรือมีการกระจายตัวของเขม่าควันขึ้นสู่ชั้นสตราโตสเฟียร์อย่างมีนัยสำคัญ
ไอซ์แลนด์ตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียและอเมริกาเหนือ ถือเป็นจุดร้อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดได้บ่อยครั้ง อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟมีพลังมากกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ เป็นเหตุให้ไอซ์แลนด์ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการปะทุขึ้นของภูเขาไฟอยู่เสมอ รวมถึงชูแผน ‘การท่องเที่ยวภูเขาไฟ’ (Volcano Tourism) เป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญของประเทศ
ภาพ: Icelandic Coast Guard / AFP
อ้างอิง: