×

‘เพราะหัวใจไม่เคยยอมแพ้’ ริคาโกะ อิเคเอะ เงือกสาวผู้เอาชนะโรคลูคีเมีย เพื่อความฝันในการไปโอลิมปิก

16.07.2021
  • LOADING...
Rikako Ikee

ต่อให้โชคชะตาจะกำหนดมาให้ต้องเผชิญกับโรคร้าย แต่ ริคาโกะ อิเคเอะ เงือกสาวชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปี ก็ไม่ยอมละทิ้งความฝันที่จะลงแข่งขันในรายการโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว โดยล่าสุดสามารถผ่านเข้ารอบคัดเลือกได้สำเร็จแล้ว

 

ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อิเคเอะเป็นหนึ่งในนักว่ายน้ำดาวรุ่งอนาคตไกลที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง และเป็นความหวังของชาวญี่ปุ่นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่จะจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 อดีตแชมป์โลกเยาวชน ประเภทท่าผีเสื้อ 100 เมตร และเป็นเจ้าของสถิติที่เร็วที่สุดในปีดังกล่าว ประกาศข่าวร้ายว่า เธอถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคีเมีย 

 

ข่าวดังกล่าวช็อกความรู้สึกของทั้งแฟนกีฬาชาวญี่ปุ่นและวงการว่ายน้ำทั่วโลก แต่ทุกคนได้พยายามส่งกำลังใจให้แก่อิเคเอะให้ต่อสู้ อย่ายอมแพ้ โดยในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์โลกที่ประเทศเกาหลีใต้ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน หลังจบการแข่งในประเภทท่าผีเสื้อ 100 เมตร ผู้ได้รับเหรียญรางวัลทั้ง 3 คน ได้แบฝ่ามือให้เห็นข้อความที่เขียนว่า ‘Rikako Never Give Up’ หรือ ‘ริคาโกะอย่ายอมแพ้นะ’ พร้อมด้วยรูปหัวใจบนฝ่ามือ

 

แต่กำลังใจจากใครก็ไม่สำคัญเท่ากับหัวใจที่ต้องการจะยอมแพ้ของเธอเอง แม้ว่าครั้งหนึ่งอิเคเอะจะเคยยอมรับว่าเธอเคยคิดอยากจะหมดลมหายใจ

 

“อนาคตของฉันที่วาดไว้ต้องเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน มันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดและขมขื่นอย่างมาก” ริคาโกะ อิเคเอะ ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในงานนับถอยหลัง 1 ปีก่อนกีฬาโอลิมปิกจะเริ่ม

 

“ในช่วงที่มืดมนที่สุดฉันเคยอยากตาย ฉันรู้สึกว่าฉันควรจะตายเสียดีกว่าถ้าจะต้องใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวดแบบนี้ แต่ในตอนนี้เมื่อมองย้อนกลับไปฉันรู้สึกเสียใจที่เคยคิดแบบนั้น

 

“ฉันไม่เคยคิดแม้สักวินาทีว่าการป่วยของฉันเป็นเรื่องที่ดี แต่ฉันก็ได้เรียนรู้จากการป่วยครั้งนี้มากมาย ฉันรู้ว่าฉันจะยืนอยู่จุดไหน ฉันควรจะใช้ชีวิตอย่างไร และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตนับจากนี้ไปของฉัน”

ในช่วงของการรักษาตัว อิเคเอะได้พยายามบอกเล่าเรื่องราวการรักษาตัวของเธอผ่านทั้งช่องทางโซเชียลมีเดียและบนเว็บไซต์ rikako-ikee.jp ที่เธอจัดทำขึ้นมาสื่อสารกับแฟนๆ ผ่านจดหมายที่เขียนด้วยลายมือและด้วยหัวใจของเธอ ซึ่งสำหรับเธอแล้ว นี่เป็นการเยียวยาหัวใจตัวเองที่อ่อนล้าด้วยอีกทางหนึ่ง

 

 

การอัปเดตจดหมายฉบับสุดท้ายนั้นมีขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม ปี 2019 ที่เธอได้บอกว่า ขณะนี้การรักษาที่โรงพยาบาลเสร็จสิ้นแล้ว และเธอจะกลับไปรักษาต่อที่บ้าน

 

“เพราะกำลังใจจากทุกคนที่ฉันได้รับ ทำให้ฉันรู้สึกอยากจะกลับบ้านและกลับไปเป็นเหมือนเดิม แม้ว่ามันจะยากและใช้เวลานาน” ข้อความตอนหนึ่งของจดหมายฉบับสุดท้ายบนเว็บไซต์ที่อิเคเอะเขียน

 

“ฉันรู้สึกซาบซึ้งสำหรับกำลังใจและการสนับสนุนฉันจากทุกคน รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องและครอบครัวของฉันจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ”

 

ในตอนท้ายของจดหมายฉบับนี้ อิเคเอะบอกว่า เธอตั้งเป้าหมายเอาไว้สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และอยากจะคว้าเหรียญทองให้ได้ 

 

นั่นคือ ‘ธง’ ในใจที่เธอปักเอาไว้ก่อน แต่แน่นอนว่าหากเลือกได้เธอเองก็อยากจะลงแข่งโอลิมปิกในบ้านเกิดของเธอที่ประเทศญี่ปุ่นมากกว่า

 

เป็นความฝันที่อยู่ในความฝันอีกที

 

แต่เพราะความพยายามอย่างไม่ลดละ อิเคเอะทำในสิ่งที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่คาดหวังเอาไว้ได้สำเร็จ เมื่อเธอสามารถคว้าสิทธิ์ในการลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวได้สำเร็จ! แม้ว่าจะไม่ใช่การแข่งในประเภทเดี่ยวก็ตาม

 

โดยอิเคเอะซึ่งเพิ่งกลับมาแข่งขันได้อีกครั้งเมื่อเดือนสิงหาคมปีกลาย หลังจากพักการแข่งขันไปยาวนานกว่า 594 วัน สามารถคว้าสิทธิ์ในการลงแข่งคัดเลือกกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวได้สำเร็จ หลังจากสามารถคว้าอันดับ 3 ในการแข่งประเภทท่าผีเสื้อ 100 เมตร ในรายการโตเกียวโอเพ่น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยเวลา 59.44 วินาที

 

และในการคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งมีขึ้นในรายการเจแปนสวิม เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกณฑ์ที่สหพันธ์ว่ายน้ำโอลิมปิกญี่ปุ่นกำหนดไว้อยู่ที่ 57.10 วินาที ซึ่งในอดีตอิเคเอะเคยทำสถิติไว้ในการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงริโอ 2016 ที่ 56.08 วินาที ปรากฏว่าเธอทำเวลาได้ 57.77 วินาที 

 

เวลานั้นอาจจะไม่ดีพอสำหรับการแข่งประเภทเดี่ยว แต่เธอจะได้แข่งใน ‘โตเกียว 2020’ ประเภท 4×100 เมตร

 

 

ภาพของสาวน้อยริคาโกะที่หลั่งน้ำตาแห่งความยินดี กลายเป็นหนึ่งในภาพที่แฟนกีฬาทั่วโลกจดจำ โดยที่ตัวเธอเองก็แทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

 

“ฉันไม่สามารถเริ่มต้นอธิบายได้เลยว่าตอนนี้มีความสุขขนาดไหน” อิเคเอะให้สัมภาษณ์หลังคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวอย่างเป็นทางการ

 

 

“ตอนนี้ฉันจำทุกสิ่งที่เคยผ่านพ้นมาได้จนถึงจุดนี้ และความรู้สึกที่เหนื่อยล้า ฉันตกใจมาก ฉันคงต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเพื่อซึมซับความรู้สึกนี้ 

 

“ถ้าเปรียบเทียบกับการคัดเลือกไปโอลิมปิกเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนี้ฉันขาดความมั่นใจ และคิดว่าการคว้าชัยชนะในระดับนี้จะเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากจุดนี้มาก ฉันก็ได้แต่ตั้งใจทำงานอย่างหนัก 

 

“ดังนั้นไม่ว่าจะขาดความมั่นใจหรือไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน ถ้าคุณทำงานหนัก คุณจะได้รับบางสิ่งกลับมาเสมอ 

 

“ในตอนสุดท้ายฉันผ่านพ้นการแข่งขันด้วยความคิดที่ว่าฉันถึงบ้านแล้ว นี่แหละคือที่ที่ฉันควรจะอยู่”

 

ก่อนหน้านี้เงือกสาววัย 20 ปี ผู้เป็นตัวแทนในการถือตะเกียงที่มีเพลิงโอลิมปิกในพิธีนับถอยหลัง 1 ปีของ ‘โตเกียว 2020+1’ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว บอกว่า เธอยังไม่อยากคาดหวังอะไรให้มากไป “ฉันคงไม่พูดว่าฉันตั้งเป้าหมายไว้ในตอนนี้ เอาไว้เมื่อเริ่มทำผลงานในระดับโลกได้ค่อยคิดถึงเรื่องนี้” 

 

แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเธอจะยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนที่เธอเคยบอกเอาไว้เมื่อ 1 ปีก่อนหน้าในวันที่กีฬาโอลิมปิกต้องถูกเลื่อนออกไปพร้อมกับวันเวลาที่สดใสของทุกคนบนโลก

 

“ลองจินตนาการถึงโลกในอีก 1 ปีข้างหน้า โลกที่จะเปิดม่านขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก

 

“ในตอนนี้นักกีฬาทั่วโลกต่างมองไปยังอนาคต พยายามสู้สุดขีดความสามารถ ไม่มีความพยายามครั้งใดต่อให้เล็กน้อยแค่ไหนที่สูญเปล่า”

 

ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ ริคาโกะ อิเคเอะ คือหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะในฐานะนักกีฬาหรือคนธรรมดาก็ตาม

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising