หลังจากที่เมื่อวันอังคารที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ตัดสินใจประกาศคว่ำบาตร Huawei บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคมจากประเทศจีน พร้อมออกคำสั่งให้บริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมในประเทศยุติการซื้ออุปกรณ์ 5G จาก Huawei ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป และต้องถอดการติดตั้งอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ออกจากเครือข่ายทั้งหมดของผู้ให้บริการภายในปี 2027
ล่าสุด บริษัท Huawei ในสหราชอาณาจักรได้ออกมาแถลงตอบโต้กรณีที่เกิดขึ้นแล้ว โดย เอ็ดเวิร์ด บรูว์สเตอร์ โฆษกประจำบริษัท ระบุว่าการตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้นับเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง และเป็นผลเสียของผู้ใช้โทรศัพท์ทุกคนในประเทศ ทั้งยังเสี่ยงต่อความล่าช้าในการให้บริการ 5G อีกด้วย
“การแบนครั้งนี้เป็นการเดินถอยหลังแทนที่จะก้าวไปข้างหน้า เราจึงขอให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรพิจารณาการตัดสินใจนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อมั่นว่ามาตรการกีดกันครั้งใหม่จากสหรัฐฯ นี้จะไม่กระทบกับด้านความยืดหยุ่นและด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเราที่มีการใช้งานในสหราชอาณาจักร น่าเสียดายที่อนาคตของ Huawei ในสหราชอาณาจักรได้ ‘ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง’ ซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ โดยมิได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์แต่อย่างใด
“ในระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา Huawei มุ่งมั่นในการสร้างการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นในสหราชอาณาจักร และในฐานะองค์กรที่ยึดมั่นในการแสดงความรับผิดชอบ เราจะยังคงมุ่งให้บริการและช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างที่ปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งนี้เราจะทำการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าการประกาศในวันนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราในด้านใด และเราจะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อชี้แจงว่า Huawei จะสามารถช่วยยกระดับการเชื่อมต่อในสหราชอาณาจักรให้ดียิ่งขึ้น”
ก่อนหน้านี้มีการประเมินแบบคร่าวๆ ว่าการที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศแบน Huawei จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากถึงประมาณ 2,000 ล้านปอนด์ หรือราว 80,000 ล้านบาท และอาจจะทำให้การเริ่มประเดิมให้บริการสัญญาณ 5G ล่าช้ากว่ากำหนดราว 2-3 ปีจากกำหนดการเดิมที่ควรจะเป็น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
