แม้จะยังไม่มีประกาศรายงานออกมาอย่างเป็นทางการ แต่สำนักข่าวอย่าง Bloomberg ก็ออกมาประมาณการเบื้องต้นแล้วว่า ยอดส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วโลกตลอดทั้งปี 2019 ของหัวเว่ย อาจจะลดลงมากถึง 40-60% เซ่นปมบริษัทถูกสหรัฐฯ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นบัญชีดำ ห้ามบริษัทในประเทศดำเนินธุรกิจด้วย
Bloomberg ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลตัวเลขคาดการณ์ยอดขายหัวเว่ยนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยเชื่อว่า ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกอาจจะลดลง 40-60% ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากความไม่มั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าและผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ดีบริษัทยังตั้งเป้าที่จะครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนภายในประเทศจีนให้ได้มากกว่า 50%
ก่อนหน้านี้จากการเปิดเผยของหน่วยงานวิจัยข้อมูลในตลาดสมาร์ทโฟน International Data Corporation (IDC) ช่วงไตรมาส 1 ของปี 2019 ที่ผ่านมา พบว่า หัวเว่ยมียอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกมากถึง 59.1 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งในตลาดได้ 19% เป็นรองเพียงซัมซุงที่มียอดขายและส่วนแบ่งตลาดที่ 71.9 ล้านเครื่อง และ 23.1% เท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปีที่ +50.3%
โชคไม่ดีที่การออกมาประกาศขึ้นบัญชีดำของทรัมป์เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลความมั่นคงของประเทศ ส่งผลให้หัวเว่ยกับเส้นทางและเป้าหมายการขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของโลกมีอันต้องขาดสะบั้นกลางทาง แม้ว่าสุดท้ายแล้วสหรัฐฯ จะชะลอโทษแบนออกไปอีก 90 วัน หรือผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคตกับผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยยังคลุมเครือไม่ชัดเจนก็ตาม
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: