งานวิจัยของ HSBC Global Research คาดการณ์ว่าความมั่งคั่งในประเทศไทยจะโตขึ้นเกือบ 60% ระหว่างปี 2022-2030 โดยจำนวนผู้มีสถานะเศรษฐีหรือผู้มีความมั่งคั่งสูงนั้นถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในระยะเวลาเดียวกัน
ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับความต้องการทีมงานมืออาชีพที่จะเข้ามาดูแล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่งคงต่อไปในอนาคต
ทำให้ในปีที่ผ่านมา HSBC ประเทศไทย (ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น) ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวธุรกิจ Private Banking ภายในประเทศ เพื่อรองรับความต้องการทางการลงทุนที่ซับซ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องของลูกค้า นับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่เป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการการบริหารความมั่งคั่ง หรือ Wealth Management ชั้นนำของเอเชียภายในปี 2025
ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทย
HSBC มีความผูกพันกับสยามเมืองยิ้มของเรามาตั้งแต่ปี 1888 ด้วยการเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันรุ่มรวยของประเทศตลอดระยะเวลากว่า 130 ปี
ไม่เพียงเท่านั้น HSBC ยังเป็นธนาคารแห่งแรกที่อนุมัติเงินกู้ระหว่างประเทศในการลงทุนสร้างทางรถไฟในประเทศไทยในปี 1905 กล่าวได้ว่า HSBC มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับพัฒนาการของภาคส่วนการเงินในประเทศไทยตลอดมา
สำหรับการก่อตั้งธุรกิจ Global Private Banking มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งมอบมาตรฐานการให้บริการ Global Private Banking ระดับสากลแบบครบวงจรให้กับลูกค้าไทยอย่างใกล้ชิด ในฐานะธนาคารระดับโลก ลูกค้าทุกท่านสามารถได้ประโยชน์จากเครือข่ายของธนาคารที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกใน 5 ทวีป 64 ประเทศ
Global Private Banking ประกอบด้วยทีม Relationship Manager, Investment Counsellors และ Client Service Executive ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้า โดยทั้งหมดมีฐานหลักอยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพื่อสร้างบริการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าภายในประเทศไทย
นอกจากนี้ในระดับภูมิภาคอาเซียน HSBC ยังให้บริการ Private Banking ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้ลูกค้าไม่พลาดโอกาสลงทุนในศูนย์กลางการลงทุนของโลกอย่างสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง
“เราได้เข้ามาเป็นคู่ค้ากับลูกค้าชาวไทยเพื่อเชื่อมต่อและสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนโดยไม่จำกัดเฉพาะขอบเขตในภูมิภาคอาเซียน หากยังรวมถึงการเปิดประตูแห่งโอกาสไปยังศูนย์กลางความมั่งคั่งในทั่วโลก
“เราทำความเข้าใจในความต้องการเชิงลึกของลูกค้าไทย และทำการส่งมอบคำแนะนำด้านการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก อีกทั้งยังเชื่อมต่อการเข้าถึงเครือข่ายการให้บริการที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้านของ HSBC ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกสู่มือของครอบครัวและธุรกิจของลูกค้าไทย” Annabel Spring, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Global Private Banking and Wealth, HSBC กล่าว ”
บริการที่ออกแบบเพื่อลูกค้าแต่ละรายเป็นการเฉพาะ
สิ่งที่น่าสนใจคือ HSBC Global Private Banking (HSBC GPB) เป็นบริการที่ออกแบบเพื่อลูกค้าแต่ละรายเป็นการเฉพาะ และมอบประสบการณ์การจัดการความมั่งคั่งและการธนาคารรอบด้านในระดับสากล โดยไม่เพียงดูแลจัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคลของลูกค้า แต่ยังครอบคลุมความต้องการด้านธุรกิจ รวมถึงระดับครอบครัวของลูกค้าด้วย ลูกค้าสามารถเข้าถึงเครือข่ายระหว่างประเทศและโมเดลธนาคารสากลของ HSBC ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้หลากหลาย ตั้งแต่ Asset Management, Wholesale Banking ไปจนถึง Markets and Security
การที่ HSBC GPB สามารถให้บริการเหล่านี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านบริการแบบ Hybrid ซึ่งผสานรวมแพลตฟอร์มดิจิทัลขั้นสูงเข้ากับการสร้าง Engagement ในระดับบุคคล แนวทางดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในภาพรวม โดยเฉพาะรูปแบบปฏิสัมพันธ์ที่ลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มรุ่นใหม่ มีต่อธนาคาร โดยปรากฏว่าแนวทางดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษในช่วงการระบาดของโรคโควิด
“ในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่เราได้ทำการเปิดตัวธุรกิจ Global Private Banking ในประเทศไทย เราสังเกตเห็นถึงความต้องการและความเร่งด่วนในการบริหารจัดการทรัพย์สินของลูกค้าชาวไทย รวมไปถึงความต้องการที่จะกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังต่างประเทศ ไม่เพียงแต่เฉพาะลูกค้าในประเทศไทยเท่านั้น หากรวมถึงกลุ่มลูกค้าผู้มีสินทรัพย์สูงในอาเซียนเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และเพื่อตอบรับกับความผันผวนของตลาดการลงทุนในปัจจุบันรวมถึงในอนาคต ” Siew Meng Tan,ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Global Private Banking ระดับภูมิภาค Asia Pacific HSBC กล่าว
ในบริบทปัจจุบัน ครอบครัวที่มีความมั่งคั่งสูงเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ HSBC GPB ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ลูกค้าที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนภายในชุมชน ผ่านทีมให้คำปรึกษาด้านกิจกรรมเพื่อสังคม
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ HSBC GPB จึงสามารถช่วยเหลือลูกค้าบนเส้นทางการยกระดับคุณภาพสังคม โดยเชื่อมโยงกลุ่มคนต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างเหมาะสม เพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในทางบวกแก่โลก
พาร์ตเนอร์ในการรักษาความมั่งคั่งและมรดกของตระกูลลูกค้า
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่า ความมั่งคั่งในไทยกำลังเพิ่มขึ้น ทำให้เมื่อครอบครัวที่มีความมั่งคั่งสูงในประเทศไทยขยายธุรกิจออกไปสู่ระดับโลก การวางแผนความมั่งคั่งและการสืบทอดสินทรัพย์ก็อาจซับซ้อนยิ่งขึ้นด้วย ตลอดระยะเวลา 75 ปีที่ผ่านมา HSBC Trustee ได้ทำหน้าที่เป็นพาร์ตเนอร์ในการรักษาความมั่งคั่งและมรดกของตระกูลลูกค้า ในฐานะหนึ่งในธุรกิจ Private Client Trustee ที่ให้บริการมายาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
HSBC Trustee ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ฮ่องกง สิงคโปร์ เจอร์ซีย์ และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะรัฐเดลาแวร์และนิวยอร์ก ด้วยความตั้งใจของ HSBC ที่จะลงทุนในทวีปเอเชีย HSBC จึงมุ่งหน้าสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับนักธุรกิจและตระกูลต่างๆ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการทำตามความมุ่งหมายในระยะยาว และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อาจเปลี่ยนแปลงพัฒนาตามสภาพการณ์ได้อยู่เสมอ
HSBC Global Private Banking ยังสร้างโอกาสให้ครอบครัวที่มีความมั่งคั่งสูง โดยการเชื่อมโยงลูกค้าเข้ากับส่วนอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจของ HSBC ไม่ว่าจะเป็นด้านความต้องการเกี่ยวกับการธนาคาร เครดิต หรือการลงทุนในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการช่วยเหลือลูกค้าในการวางแผนสืบทอดความมั่งคั่ง โดยทีมบริหารความมั่งคั่งระดับมือรางวัลของเรา
ในบรรดาบริการที่มีอยู่หลากหลาย HSBC GPB ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนได้หลากหลายที่สุด เช่นแพลทฟอร์มการลงทุนทางเลือกที่ครอบคลุมทั้งด้านการลงทุนในหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity), การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Real-estate) และเครดิตเอกชน (Private Credit) รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) อื่นๆ ด้วย
“ในฐานะที่เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทย HSBC ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนและส่งเสริมเศรษฐกิจไทยและคนไทยมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นองค์กรที่เป็นผู้นำสำคัญในด้านการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ ให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเสมอมา
“ในการขยายธุรกิจใหม่ Global Private Banking และ Asset Management ในประเทศไทย เป็นการนำพานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทันสมัยในการให้บริการ Wealth Management แบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ให้กับการบริหารจัดการความมั่งคั่งของผู้มีสินทรัพย์สูงในประเทศไทย” Giorgo Gamba ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HSBC ประเทศไทย กล่าว
การสืบทอดเหนือกาลเวลา
เพื่อฉลอง 1 ปีของธุรกิจ Global Private Banking ทาง HSBC ได้จัดงานกาล่าดินเนอร์ให้กับลูกค้าของธนาคารภายใต้ธีม ‘การสืบทอดเหนือกาลเวลา’ หรือ ‘A Timeless Legacy’ ขึ้น การจัดงานได้ใช้ฉากหลังเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำแห่งสายเลือดหลักของประเทศไทย และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงร่องรอยจารึกแห่งประวัติศาสตร์ความผูกพันอันยาวนานของธนาคารที่ร่วมเดินทางเคียงข้างประเทศไทยมานานกว่า 130 ปี
งานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงของธนาคารที่เดินทางมาจากหลายประเทศ เพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติกว่า 200 ท่าน
“ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างธุรกิจใหม่ภายใต้ธนาคาร HSBC ในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายขอบเขตการให้บริการ Global Private Banking and Wealth Management ของธนาคาร HSBC เข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“การก่อตั้งธุรกิจ Global Private Banking มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งมอบมาตรฐานการให้บริการ Global Private Banking ระดับสากลแบบครบวงจรให้กับลูกค้าไทยอย่างใกล้ชิด ในฐานะธนาคารระดับโลก ลูกค้าทุกท่านสามารถได้ประโยชน์จากเครือข่ายของธนาคารที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกใน 5 ทวีป 64 ประเทศ โดยเราส่งมอบการเข้าถึงการบริการในทุกๆ ด้านของทั้งกลุ่มธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความมั่งคั่งทางการเงิน การบริการด้าน Commercial Banking และการบริการด้าน Global Market เพื่อเปิดโอกาสให้กับลูกค้าและธุรกิจของลูกค้า อีกทั้งเรายังช่วยสร้างการสืบทอดเหนือกาลเวลา หรือ A Timeless Legacy ที่เป็นชื่องานครั้งนี้ เพื่อความมั่งคั่งที่ปราศจากความกังวลในชีวิตและทรัพย์สิน และพร้อมส่งต่อให้กับทายาทอย่างมั่นคงและเพิ่มพูนตลอดไป” ศรัณยา อรุณศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HSBC Global Private Banking ประจำประเทศไทย กล่าว
สำหรับค่ำคืนอันแสนพิเศษ นอกเหนือไปจากอาหารมื้อค่ำที่ได้รับการรังสรรค์อย่างปราณีตโดยเชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม และทีมงาน สุดยอดเชฟระดับเอเชียและระดับโลก แขกผู้มีเกียรติทุกท่านยังได้รับความประทับใจและตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงเต้นรําสุดวิจิตรอลังการ
รวมถึงการแสดงวงดนตรีสไตล์ Pop-Opera วงแรกและวงเดียวของเมืองไทย โดยวง FIVERA ผ่านโทนเสียงสูงต่ำทั้ง 5 โทนที่กลมกล่อม สร้างความประทับใจให้กับทุกท่าน อีกทั้งยังมีมินิคอนเสิร์ตจาก ‘เจ้าพ่อดิสโก้แห่งเมืองไทย’ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ มาร่วมสร้างบรรยากาศการร่วมเฉลิมฉลองในงานครั้งนี้
งานกาลาดินเนอร์ได้ปิดงานด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟสุดตระการตา ตระหง่านอยู่เหนือริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงามเหนือคำบรรยายอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความประทับใจของผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน
