เหตุการณ์ชุมนุมครั้งใหญ่ในฮ่องกง เพื่อคัดค้านการผ่านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในสภานิติบัญญัติบานปลาย เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วง และตำรวจจลาจลที่พยายามสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย และกระสุนยาง
BBC รายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุจลาจลครั้งนี้อย่างน้อย 72 ราย อายุระหว่าง 15-66 ปี โดยจำนวนนี้มีชายได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
การชุมนุมครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย) เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่สภานิติบัญญัติฮ่องกงมีกำหนดอภิปรายแก้ไขร่างกฎหมายวาระที่ 2 ซึ่งการปักหลักปิดถนนของผู้ประท้วง รวมถึงการจอดรถกีดขวางตลอดทางสู่อาคารสภานิติบัญญัติในย่านแอดมิรัลตี้ ทำให้การประชุมสภาต้องล่าช้าออกไป ขณะที่ระบบคมนาคมหลายแห่งในเมืองกลายเป็นอัมพาต นอกจากนี้ธุรกิจจำนวนมากก็ได้รับผลกระทบจากการผละงานประท้วงของพนักงาน ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งก็หยุดทำการเพื่อเข้าร่วมชุมนุมด้วย
ด้าน แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง วิจารณ์การประท้วงร่างกฎหมายฉบับนี้ ว่าเป็นการก่อความไม่สงบอย่างโจ่งแจ้ง และระบุว่าเหตุการณ์ปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในสังคมที่เจริญแล้ว
โดยก่อนหน้านี้เธอยืนยันว่าจะเดินหน้าแก้ไขกฎหมายจนมีผลบังคับใช้ แม้องค์กรสิทธิมนุษยชน นักเคลื่อนไหว และนักวิชาการแขนงต่างๆ จะวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า กฎหมายฉบับนี้เปิดทางให้จีนเข้ามามีอิทธิพลบนเกาะฮ่องกงมากขึ้น โดยรัฐบาลจะสามารถควบคุมตัวผู้ลี้ภัยหรือผู้เห็นต่างไปสอบสวนที่จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง ถูกทรมาน กักขังตามอำเภอใจ และบีบบังคับให้รับสารภาพ ท่ามกลางความกังขาเกี่ยวกับมาตรฐานความยุติธรรมของระบบตุลาการจีน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกแถลงการณ์แสดงท่าทีสนับสนุนการผ่านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในฮ่องกงอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่าการกระทำใดๆ ที่บ่อนทำลายความเจริญรุ่งเรือง และเสถียรภาพของฮ่องกง ล้วนขัดต่อความเห็นของคนส่วนใหญ่ในฮ่องกง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: