Affinity Equity Partners ซึ่งเป็นกองทุนในฮ่องกง วางแผนที่จะขายธุรกิจ Burger King ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยคาดว่าราคาขายรวมกันจะอยู่ที่ราว 1 แสนล้านเยน หรือกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท
Nikkei Asia รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากยอดขายของร้านแฮมเบอร์เกอร์เพิ่มขึ้นจากความต้องการซื้อกลับบ้านที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าการระบาดของโควิดจะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมบริการอาหารโดยรวมก็ตาม
โดยยอดขายหน้าร้านของ McDonald’s Japan ในปี 2021 เพิ่มขึ้น 9.7% จากปี 2020 และยอดขายของ Mos Burger ก็เพิ่มขึ้น 10.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ปี 2021 Burger King ยังเพิ่มการเปิดสาขาด้วยจำนวนเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2019 มีประมาณ 150 และ 440 สาขาในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ตามลำดับ ส่วนใหญ่ยังเป็นบริษัทแม่ที่เปิดเอง แต่กระนั้นถ้าเร่งการเปิดด้วยเครือข่ายแฟรนไชส์ ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสเติบโตได้ดี
Affinity Equity Partners เข้าซื้อกิจการในญี่ปุ่นในปี 2017 หลังจากซื้อธุรกิจเกาหลีในปี 2016 นับตั้งแต่นั้นมา ก็ได้เปิดสาขาใหม่และลุยการทำการตลาดดิจิทัลอย่างจริงจัง โดยนับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ กองทุนฮ่องกงได้เพิ่มจำนวนร้านค้าขึ้นกว่า 100 แห่งในเกาหลีใต้ และประมาณ 50 แห่งในญี่ปุ่น
ยอดขายในธุรกิจเกาหลีคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6.80 แสนล้านวอน หรือ 1.9 หมื่นล้านบาทในปี 2021 ซึ่งมาจากการตราสินค้าที่แข็งแกร่ง จนสามารถต่อสู่กับคู่ปรับ McDonald’s ได้อย่างสูสี ขณะที่ในญี่ปุ่นคาดว่าจะมีรายได้ 1.5 หมื่นล้านเยน หรือ 3.4 พันล้านบาทด้วยกัน
แหล่งข่าวกล่าวว่าผู้ที่อาจเข้าซื้อกิจการ ได้แก่ กองทุนเพื่อการลงทุนรายใหญ่ กลุ่มร้านอาหาร และบริษัทที่มีประสบการณ์ในการจัดการแฟรนไชส์ อย่างไรก็ตาม บางคนได้ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากในการผูกธุรกิจของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เข้าด้วยกันในการขายครั้งนี้ หากบริษัทเกาหลีใต้เข้าซื้อกิจการ จะมีปัญหาว่าจะสามารถจัดการธุรกิจในญี่ปุ่นได้หรือไม่
ผู้บริหารกองทุนเพื่อการลงทุนรายหนึ่งบอกกับ Nikkei Asia ว่า “ถ้า (กองทุน) ไม่ขายธุรกิจญี่ปุ่นและเกาหลีแยกกัน ฉันสงสัยว่าจะไม่สามารถหาผู้ซื้อได้”
ตามข้อมูลของสมาคมบริการอาหารแห่งประเทศญี่ปุ่น ยอดขายของอุตสาหกรรมบริการอาหารญี่ปุ่นโดยรวมลดลงเป็นเวลา 21 เดือนติดต่อกันจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2021 ขณะที่ยอดขายในเครือข่ายอาหารจานด่วนที่เน้นแฮมเบอร์เกอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 17 เดือนจนถึงเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากความต้องการที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดใหญ่ สำหรับบริการซื้อกลับบ้านและบริการจัดส่ง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
