สมาพันธ์อินเทอร์เน็ตแห่งเอเชีย หรือ Asia Internet Coalition (AIC) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือด้านอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ที่มีสมาชิกบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Facebook, Google, Amazon, LINE และ Twitter ได้เปิดเผยจดหมายเปิดผนึกแสดงความวิตกกังวลว่า การปรับเปลี่ยนกฎหมาย Doxxing Act เมื่อไม่นานมานี้ของคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จะกลายเป็นแรงบีบให้บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติอย่าง Facebook, Twitter และ Google ระงับการให้บริการและถอนตัวออกจากเกาะฮ่องกง
ข้อคิดเห็นกึ่งคำเตือนครั้งนี้มีขึ้นหลังทีมคณะกรรมการด้านความปลอดภัยข้อมูลมีการผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยนกฎหมาย Doxxing Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลออนไลน์ส่วนบุคคลตามที่หน่วยงานรัฐร้องขอ และกลายเป็นประเด็นขัดแย้งร้อนแรงบนเกาะฮ่องกงในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ทั่วเกาะในปี 2019 โดยภายใต้กฎหมายนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐสามารถดึงและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย บัตรประชาชน และที่อยู่ของบุคคลที่รัฐบาลต้องการบนโลกออนไลน์โดยที่รัฐไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว
ทั้งนี้ข้อกฎหมายที่มีการปรับปรุงเพิ่มเข้ามาในภายหลังเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และทำให้ AIC ค่อนข้างกังวลก็คือการที่หน่วยงานของรัฐมีอำนาจในการร้องขอข้อมูลจากบริษัทเอกชนผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ และหากเครือข่ายโซเชียลมีเดียปฎิเสธ ทางการก็มีสิทธิ์ดำเนินคดีกับพนักงานของบริษัทในพื้นที่ได้
นอกจากนี้ตัวกฎหมายยังเสนอบทลงโทษบริษัทที่ไม่ยอมปฏิบัติตามว่ามีสิทธิ์รับโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 4.15 ล้านบาท)
แถลงการณ์ของ AIC ระบุว่า ต้องการให้ทางการชี้แจงตัวบทกฎหมายให้มีความชัดเจน โดยคำนึงถึงหลักการปกป้องข้อมูลความเป็นส่วนตัวของบุคคล ก่อนย้ำว่า หนทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้บริษัททั้งหลายโดนแทรกแซงทางเทคโนโลยีก็คือการหลีกเลี่ยงการลงทุนและให้บริการใดๆ บนเกาะฮ่องกง ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะส่งผลกระทบทางลบต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภคในฮ่องกง ตลอดจนเป็นอุปสรรคทางการค้า ขณะที่การกำหนดบทลงโทษและดำเนินคดีกับพนักงานของบริษัทในพื้นที่จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางธุรกิจจะขัดขวางแผนการพัฒนาฮ่องกงไปสู่การเป็นฮับทางเทคโนโลยีของภูมิภาค
ขณะเดียวกันบรรดาสมาชิกของ AIC ยังเน้นว่า บริษัททุกแห่งไม่ได้ต้องการต่อต้านหรือท้าทายอำนาจรัฐ และยินดีปฏิบัติตามกฎหมายของทางการทุกประการ เพียงแต่ขอให้ทางฮ่องกงทบทวนพิจารณากฎหมาย Doxxing พร้อมใช้โอกาสนี้เรียกร้องขอเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวกับทางคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
ทั้งนี้ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนปี 2019 ถึงเดือนพฤษภาคม 2021 ทางการฮ่องกงมีการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับกฎหมาย Doxxing มากกว่า 5,700 คดี
อ้างอิง:
