วันนี้ (12 เมษายน) รณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการพิเศษ THE STANDARD ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ถึงมาตรการของสถาบันการเงินในการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการว่า ที่ผ่านมามีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยเข้าไปช่วยเหลือพักชำระหนี้หรือพักดอกเบี้ย ปัจจุบันรับทราบมาว่ามีการเข้าไปช่วยเหลือมากกว่า 1 ล้านรายแล้ว
ในส่วนของบัตรเครดิตและสินเชื่อหมุนเวียน ได้คุยมาตรการกับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารรัฐ และกลุ่ม Non-bank ให้ลดเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระในแต่ละเดือน จากเดิมต้องชำระที่ 10% ของยอดชำระ ให้เหลือ 5% ของยอดคงค้างในแต่ละเดือน
รวมถึงยอดคงค้างที่ไม่ได้ชำระก็ได้มีการพูดคุยให้ปรับดอกเบี้ยจากสูงสุดถึง 18% อาจให้เปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาวเพื่อให้ทยอยผ่อน โดยดอกเบี้ยอาจลดลงมาเหลือ 12%
ส่วนการผ่อนบ้าน-ผ่อนรถ ถ้าเป็นบ้านวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท สินเชื่อเช่าซื้อรถทุกประเภทวงเงินไม่เกิน 250,000 บาท หรือสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์วงเงินไม่เกิน 35,000 บาท อาจจะพักชำระหนี้เป็นเวลา 3-6 เดือน
ในขณะเดียวกัน แม้ระหว่างพักชำระหนี้ดอกเบี้ยจะยังเดินอยู่ แต่ได้มีการพูดคุยกับธนาคารพาณิชย์ให้เกลี่ยดอกเบี้ยนี้ไปตลอดอายุสัญญาเงินกู้ หรือนำดอกเบี้ยที่ค้างชำระไปอยู่ในงวดสุดท้ายของสัญญาเงินกู้
ขณะที่สินเชื่อรถยนต์ซึ่งคิดดอกเบี้ยรวมไว้ในค่างวดแล้วอาจมีการลดค่างวดอย่างน้อย 30% เป็นเวลา 3-6 เดือน หรือบางแห่งก็พักชำระค่างวดไปเลยเป็นเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเป็นข้อตกลงร่วมกัน คำว่าร่วมมือกันก็มีความหมายว่าต้องทำตามนี้ ซึ่งทีมงานธนาคารแห่งประเทศไทยก็รับฟังปัญหาอยู่ และถ้ามีปัญหาอะไรก็จะมีการเจาะลงไปดู
อีกทั้งมีการรวบรวมมาตรการช่วยเหลือของทุกธนาคารไว้ในเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเปรียบเทียบว่าธนาคารได้ทำตามนั้นหรือไม่ โดยติดตามเป็นรายวัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
