ฟาสต์แฟชั่นรายใหญ่อย่าง H&M ยกทัพเสื้อผ้ามือสองทั้งหมวดเด็กและผู้หญิงกว่า 30,000 ชิ้นเข้าจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม thredUP ตั้งเป้าลดขยะฟาสต์แฟชั่นและช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่มีนโยบายผลิตเสื้อผ้าลดลง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า H&M Group เชนฟาสต์แฟชั่นสัญชาติสวีเดน ได้เข้าร่วม thredUP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเสื้อผ้ามือสองที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยสตาร์ทอัพจากซานฟรานซิสโก
ทั้งนี้ H&M เตรียมนำสินค้ามือสองทั้งของเด็กและผู้หญิงที่มีอยู่ประมาณ 30,000 ชิ้นเข้ามาจำหน่ายบนเว็บไซต์ hm.thredup.com มีราคาเริ่มต้น 200 บาท โดยมีเป้าหมายต้องการลดเสื้อผ้าแฟชั่นที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- H&M วางแผนลดคาร์บอนฟุตพรินต์ลงเหลือครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 พร้อมตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
- ส่องเทรนด์ปี 2023 ‘Gen Z’ เริ่มหันหลังให้ฟาสต์แฟชั่น ลดความถี่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ทำวงการเสื้อผ้าต้องพลิกโฉมสู่ความยั่งยืน
- LVMH ภายใต้การนำของ เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ อาจเข้าเทกโอเวอร์ Richemont บริษัทแฟชั่นหรูเบอร์ 4 ของโลก
สำหรับจุดแข็งของแพลตฟอร์ม thredUP จะรับหน้าที่จัดการหน้างานทุกอย่างให้ ทั้งการตรวจสอบคุณภาพ ถ่ายรูปสินค้า และการตั้งราคา ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นๆ อย่าง J.Crew และ Kate Spade
เอบิเกล เคมเมอร์เซลล์ หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ H&M North America กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีนโยบายลดการผลิตเสื้อผ้าลง เพียงแต่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบของฟาสต์แฟชั่นที่อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคตมากขึ้น
แน่นอนว่าการที่ H&M ใช้เทคโนโลยีและระบบโลจิสติกส์จาก thredUP เข้ามาช่วยขับเคลื่อนในครั้งนี้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากถ้าเทียบกับการสร้างช่องทางบริการของตัวเองโดยตรง
อย่างไรก็ตาม H&M ยังไม่ได้คาดการณ์รายได้จากการจำหน่ายเสื้อผ้ามือสอง เพราะถือเป็นสัดส่วนที่ยังน้อย แต่ประเมินว่าต่อจากนี้จะเติบโตขึ้นแน่นอน ซึ่งสอดรับกับตลาดเสื้อผ้ามือสองมีมูลค่าสูงถึง 36,000 ล้านดอลลาร์ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในตลาดเสื้อผ้ามือสอง โดยเฉพาะในองค์กรไม่แสวงหากำไรที่นำเสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคมาจำหน่ายเพื่อหารายได้
เรียกว่าในอนาคตมูลค่าตลาดจะสูงกว่าแบรนด์ฟาสต์แฟชั่น ไม่ว่าจะเป็น ZARA หรือกระทั่ง H&M ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหากในอนาคตเราจะได้เห็นแบรนด์ดังเริ่มกระโดด เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดเสื้อผ้ามือสอง เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสทางธุรกิจแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
อ้างอิง: