ยังคงเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับแบรนด์ H&M ที่เกิดกระแสต่อต้านขึ้นในจีน ล่าสุดผู้ค้าปลีกแฟชั่นรายใหญ่อันดับสองของโลกถึงกับต้องออกแถลงการณ์แยกจากรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรก โดยย้ำถึงความสำคัญของตลาดจีน
H&M กล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับทีมงานในพื้นที่เพื่อ ‘ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อจัดการกับความท้าทายในปัจจุบันและหาหนทางไปข้างหน้า’ พร้อมเสริมว่า จะทุ่มเทเพื่อฟื้นคืนความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศจีน ซึ่งแบรนด์จากสวีเดนนั้นได้ทำธุรกิจในแดนมังกรมายาวนานกว่า 30 ปี
ขณะเดียวกันคำแถลงดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงซินเจียง และไม่ได้ให้รายละเอียดว่า H&M หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวจีนกลับคืนมาได้อย่างไร
H&M เผชิญกับความโกลาหลในแดนมังกรตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากมีมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปต่อจีน เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซินเจียง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตฝ้ายรายใหญ่ 1 ใน 5 ของโลก โดย H&M ได้ออกมาแถลงความกังวลและจะยุติการนำฝ้ายจากซินเจียงมาใช้
แถลงการณ์ดังกล่าวได้ถูกชาวจีนหยิบมาโจมตี และเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร H&M พร้อมกันนี้ดาราของจีนหลายคนได้ออกมาตัดความสัมพันธ์ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ของ H&M ไม่สามารถค้นหาได้อีกแล้วบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของแดนมังกร ตลอดจนไม่สามารถค้นหาที่ตั้งร้านได้ในแอปพลิเคชัน Baidu Maps พร้อมกับมีรายงานว่า ถูกห้างสรรพสินค้าสั่งปิดแบบไม่มีกำหนด
เฮเลนา เฮลเมอร์สสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ H&M ยอมรับกับสื่อว่า ขณะนี้มีร้านค้าของ H&M ประมาณ 20 แห่งที่ถูกปิด แต่ปฏิเสธที่จะบอกว่า การถูกปิดนั้นเกี่ยวกับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่
ปีงบประมาณที่ผ่านมาจีนคิดเป็น 5.2% ของยอดขายทั้งหมด นั่นทำให้จีนเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของ H&M รองจากเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร แต่ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด (เดือนธันวาคม 2020 – กุมภาพันธ์ 2021) พบว่า จีนเบียดขึ้นมาเป็นที่ 3 เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี แถมยังเป็นตลาดขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่มีการเติบโตด้วย
“จีนเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับเรา และความมุ่งมั่นในระยะยาวของเราที่มีต่อประเทศยังคงแข็งแกร่ง” H&M กล่าวในแถลงการณ์ ขณะเดียวกันเมื่อถูกถามว่า H&M จะกลับมาใช้ผ้าฝ้ายซินเจียงในผลิตภัณฑ์ของตนต่อไปหรือไม่ ผู้บริหารคนหนึ่งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
ทั้งนี้ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด H&M ระบุว่า ยอดขายสุทธิของกลุ่ม H&M ในสกุลเงินท้องถิ่นยอดขายสุทธิลดลง 21% เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ร้านค้า 1,800 สาขา หรือราว 36% จากร้านทั้งหมดต้องปิดตัวลงชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ยอดขายเพิ่มขึ้น 55% ในสกุลเงินท้องถิ่นในช่วง 1-28 มีนาคม 2021 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
