×

Heartstopper ซีรีส์ Coming of age การเติบโตและก้าวผ่านช่วงเวลาชวนสับสนของ LGBTQ+

24.04.2022
  • LOADING...
Heartstopper

*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์*

 

Heartstopper ซีรีส์เรื่องใหม่จาก Netflix ความยาวทั้งหมด 8 เอพิโสด เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายภาพชื่อดังจากอังกฤษของ อลิซ ออสเเมน บอกเล่าถึงเรื่องราวของ ชาร์ลี สปริง (โจ ล็อก) นักเรียนมัธยมปลายของโรงเรียนชายล้วนทรูแฮม ที่โดนเพื่อนในโรงเรียนกลั่นแกล้งเพียงเพราะเขาเปิดตัวว่าเป็นเกย์ ตั้งแต่นั้นชาร์ลีจึงมักเก็บตัวและเลี่ยงการคบหากับคนอื่นๆ รวมทั้งแอบไปนั่งทานอาหารเที่ยงคนเดียวในห้องเรียนศิลปะของโรงเรียนเป็นประจำ

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง กฎของโรงเรียนที่บังคับให้นักเรียนจากทุกชั้นปีต้องนั่งรวมกันในคาบเช็กชื่อเพื่อทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ก็ทำให้ชาร์ลีจับพลัดจับผลูไปทำความรู้จักกับ นิก เนลสัน (คิท คอนเนอร์) นักกีฬาดาวเด่นทีมรักบี้ของโรงเรียนโดยไม่ตั้งใจ

 

Heartstopper

Heartstopper

 

จุดเริ่มต้นจากการพบกันในคาบเช็กชื่อและบทสนทนาสั้นๆ ระหว่างวัน เริ่มทำให้ชาร์ลีเปิดใจกับนิกมากขึ้น จนกระทั่งสัมผัสเล็กๆ ในตอนที่มือของนิกสัมผัสมือของชาร์ลี เมื่ออีกฝ่ายหยอกล้อเขาด้วยการใช้ปากกาวาดรูปยิ้มลงบนหลังมือ ก็ทำให้ชาร์ลีเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับนิกมากขึ้น 

 

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของชาร์ลีเริ่มต้นขึ้นในตอนที่นิกเห็นเขาวิ่งแข่งในคาบเรียนพละ นิกจึงชักชวนให้ชาร์ลีมาเข้าร่วมทีมรักบี้ของโรงเรียนด้วยกัน แม้ชาร์ลีจะลังเลเพราะตนเองไม่ชอบการเล่นกีฬาและไม่อยากจะเข้าสังคมใหม่ๆ แต่ความรู้สึกดีที่มีต่อนิกก็ทำให้ชาร์ลีตอบตกลงในที่สุด

 

“ได้ข่าวหรือยังว่ามีเด็กเยียร์ 9 เป็นเกย์ แหยงว่ะ มันแอบส่องเราตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าแน่ๆ ฉันยอมตายดีกว่าเป็นเกย์”

 

ตั้งแต่ชาร์ลีเปิดตัวว่าเป็นเกย์เมื่อปีก่อน เขาก็มักจะได้ยินคำพูดเหยียดหยามหรือโดนคนอื่นกลั่นแกล้งเสมอ ชาร์ลีจึงรู้สึกว่าตัวเขาแปลกแยกจากสังคมในโรงเรียนมาโดยตลอด แต่เมื่อชาร์ลีเข้าร่วมทีมรักบี้และสามารถเล่นรักบี้ได้ดีกว่าที่คาดไว้ ก็ทำให้เขาเริ่มมีเพื่อนและเข้ากับคนอื่นได้มากขึ้น

 

ตั้งแต่นั้นการได้ฝึกซ้อมรักบี้กับนิกในทุกๆ วัน ก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชาร์ลีมีความสุขกับการไปโรงเรียนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นอกจากนั้นเขายังเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมากขึ้น ในขณะเดียวกันความรู้สึกของเขาที่มีต่อนิกก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างห้ามไม่อยู่

 

Heartstopper

 

แต่แม้ว่าชาร์ลีจะรู้สึกดีกับนิกมากขนาดไหน เขาก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับนิกไม่สามารถพัฒนาไปเกินเพื่อนได้ เพราะชาร์ลีรู้ดีว่านิกชอบผู้หญิง เขาจึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้โดยไม่คิดจะบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ 

 

แต่ความใจดีและอ่อนโยนของนิกที่เข้ามาช่วยเหลือในตอนที่ชาร์ลีมีปัญหา คอยรับฟังเมื่อมีเรื่องกังวลใจ รวมทั้งยังสัญญาว่าจะปกป้องเขาจากคนที่เข้ามาทำไม่ดีด้วย ยิ่งทำให้ความรู้สึกที่ชาร์ลีเคยคิดว่าจะเก็บไว้คนเดียว กลับท่วมท้นอยู่เต็มอกจนพร้อมจะปะทุออกมาได้ทุกเวลา

 

ทางด้านของนิกที่เคยคิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงมาตลอดชีวิตก็เริ่มหวั่นไหวกับชาร์ลีโดยไม่รู้ตัว กระทั่งวันหนึ่งที่เขาเริ่มรู้สึกว่าตนเองอยากจะจับมือชาร์ลีในตอนที่นั่งดูภาพยนตร์ด้วยกันในบ้านของอีกฝ่าย ก็ทำให้นิกเริ่มรู้ตัวว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อชาร์ลีกำลังเปลี่ยนไป

 

ฉากที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นหนึ่งในฉากที่เราชื่นชอบมากที่สุดของเรื่อง เมื่อนิกกลับไปที่บ้านและเริ่มค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตด้วยประโยคคำถามว่า ‘Am I Gay?’ ฉากการค้นพบตัวเองของนิกดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยการตัดสลับแววตาที่สับสนของเขากับภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับ LGBTQ+ 

 

ก่อนจะไต่ระดับความกดดันมากขึ้นด้วยดนตรีประกอบที่ให้ความรู้สึกตึงเครียด พร้อมกับการตัดสลับภาพของชาร์ลีที่กำลังนั่งอ่านข่าวคู่รักเพศเดียวกันโดนทำร้ายในที่สาธารณะและข่าวการคัดค้านสมรสเพศเดียวกัน

 

Heartstopper

 

ความรู้สึกกดดันในฉากนั้นถูกเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ในตอนที่นิกทำแบบทดสอบออนไลน์แล้วค้นพบว่าตัวเขามีโอกาสเป็น Homosexual หรือคนรักร่วมเพศมากถึง 62% นิกนิ่งค้างไปครู่หนึ่งพร้อมกับน้ำตาที่ร่วงลงมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ฉากนี้จึงนับเป็นฉากที่มีความยาวเพียงไม่กี่นาที แต่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกสับสน อึดอัด และหวาดกลัวของตัวละครออกมาได้เป็นอย่างดี

 

หลังจากวันนั้นทั้งนิกและชาร์ลีก็เลือกที่จะอดทนเก็บความรู้สึกอึดอัดใจและสับสนเอาไว้โดยไม่บอกให้อีกฝ่ายรับรู้ กระทั่งวันหนึ่ง ความรู้สึกที่ท่วมท้นของชาร์ลีก็ทำให้เขาตัดสินใจเอ่ยปากถามถึงคนที่นิกชอบในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันในงานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนคนหนึ่ง  

 

ชาร์ลีเอ่ยถามนิกอย่างตรงไปตรงมาด้วยคำถามว่า “นายจะเดตกับคนที่ไม่ใช่ผู้หญิงไหม” ในตอนนั้นท่าทีลังเลของนิกทำให้ชาร์ลีใจเต้นรัว เขาทั้งหวาดกลัวแต่ก็รู้สึกมีหวัง จนกระทั่งคำตอบที่บอกว่า “ไม่รู้สิ ก็ไม่แน่” พร้อมกับจูบของนิกในคืนนั้น ก็ทำให้ความสับสนและความไม่มั่นใจที่เขาทั้งสองคนสั่งสมมาตลอดถูกคลี่คลายในเวลาอันรวดเร็ว 

 

ตลอดหลายเอพิโสดหลังจากนั้นซีรีส์ได้นำผู้ชมเข้าไปสำรวจช่วงเวลาที่สับสน การยอมรับตัวตนของตัวเอง ไปจนถึงการก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของ LGBTQ+ เมื่อสังคมรอบข้างแสดงออกถึงท่าทีรังเกียจ พูดจาดูถูกเหยียดหยามในสิ่งที่พวกเขาเป็น แต่สุดท้ายนิกและชาร์ลีก็ได้เรียนรู้ที่จะก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นไปด้วยกัน

 

Heartstopper

Heartstopper

 

นอกจากความสัมพันธ์ของชาร์ลีและนิก ซีรีส์ยังนำเราเข้าไปสำรวจสังคมที่เต็มไปด้วยความหลากหลายได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการพูดถึงความสับสนของนิกที่ไม่มั่นใจว่าตนเองเป็นเกย์หรือไบเซ็กชวล การเล่าเรื่องของคู่รักเลสเบี้ยน ไปจนถึงชีวิตของผู้หญิงข้ามเพศในโรงเรียนหญิงล้วน ซึ่งทำให้ผู้ชมได้ทำความเข้าใจ LGBTQ+ ในสังคมมากยิ่งขึ้น

 

แม้ภาพรวมของ Heartstopper จะเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จด้วยการเริ่มต้นจากที่ตัวละครมีความรู้สึกดีต่อกัน เข้าสู่ช่วงเวลาที่สับสน กระทั่งก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ และมีความสุขด้วยกันในตอนจบ ไม่ต่างจากซีรีส์โรแมนติกเรื่องอื่นๆ 

 

แต่สิ่งที่โดดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการนำเราเข้าไปสัมผัสถึงจิตใจและความรู้สึกที่แท้จริงของ LGBTQ+ ทั้งการแอบรัก ผิดหวัง สมหวัง ไปจนถึงการก้าวข้ามช่วงเวลาที่สับสนและโดนต่อต้านจากสังคม ผ่านการเล่าเรื่องที่เป็นธรรมชาติและสมจริง จนผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังเอาใจช่วยเรื่องราวของเพื่อนสักคนในชีวิตจริง 

 

องค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ทำให้ผู้ชมสามารถหัวเราะ อมยิ้ม ร้องไห้ไปกับตัวละครในเรื่องได้ตั้งแต่เอพิโสดแรกจนเอพิโสดสุดท้าย ทำให้ Heartstopper กลายเป็นซีรีส์ LGBTQ+ น้ำดีอีกหนึ่งเรื่องที่จะช่วยเยียวยาจิตใจให้เรายิ้มออกในวันที่เหนื่อยล้า รวมทั้งนำผู้ชมไปเรียนรู้ชีวิตพร้อมๆ กับตัวละครในซีรีส์ด้วยเช่นกัน

 

ติดตามเรื่องราวการเติบโตของวัยรุ่นและเรียนรู้ความรักที่หลากหลายในสังคมไปพร้อมกับพวกเขาในซีรีส์ Heartstopper ทั้งหมด 8 เอพิโสด ได้ทาง Netflix

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising