“เพราะไม่ได้เกิดมาเหมือนคนอื่น ผมจึงต้องพยายามมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า”
ประโยคแสนจำเจค่อนไปทางน่าเบื่อ แต่ก็อธิบายความเป็นการ์ตูนสไตล์โชเน็น (การ์ตูนเด็กผู้ชาย) ในเรื่อง My Hero Academia ของ อาจารย์โฮริโคชิ โคเฮย์ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้ง มิโดริยะ อิสึคุ ที่พูดประโยคนี้อยู่ซ้ำๆ ก็จัดอยู่ในหมวดพระเอก ‘จอมห่วย’ ที่เริ่มต้นจากศูนย์และค่อยๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาช้าๆ ไม่ต่างกัน
สิ่งที่ทำให้มิโดริยะโดดเด่นขึ้นมาจากพล็อตเรื่องพื้นฐานคือ ต้นตอความห่วยที่แม้จะเกิดมาในโลกของ ‘ฮีโร่’ ที่ ‘ความพิเศษ’ เป็นเพียงความธรรมดาดาษดื่น มนุษย์แทบทุกคนเกิดมาพร้อมกับ ‘อัตลักษณ์’ (ชื่อเรียกพลังพิเศษใน My Hero Academia) ที่แตกต่างกัน
แต่มิโดริยะเกิดมาในโลกแห่งความพิเศษนั้น ด้วยการเป็นคนแสนธรรมดาที่ไม่มีอัตลักษณ์อะไรสักอย่างติดตัว และยิ่งเขามีความฝันสูงสุดคือ การเป็นแบบเดียวกับ ‘ออลไมท์’ ฮีโร่ผู้กล้าหาญ สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เขาก็ยิ่งต้องเจ็บปวด เพราะถ้ามองตามความเป็นจริง คนธรรมดาอย่างเขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะฝันแบบนั้นด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะดูเป็นไปไม่ได้ แต่มิโดริยะก็ตัดสินใจสอบเข้าที่ UA โรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่งที่รวบรวมเด็กหัวกะทิ มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว รอวันเติบโตเป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต และแน่นอนว่าคนธรรมดาอย่างมิโดริยะตกเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของการ ‘Bully’ และดูแคลนความฝันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะจาก ‘บาคุโก’ เพื่อนวัยเด็กที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์และอัตลักษณ์ ‘ระเบิด’ สุดแกร่ง อัจฉริยะขั้วตรงข้ามที่ตั้งฉายาให้มิโดริยะว่า ‘เดกุ’ ที่แปลว่า ‘ทำอะไรไม่ได้’
แม้กระทั่งฮีโร่ในดวงใจของเขายังเคยพูดว่า “มันจะเป็นการโกหกถ้าฉันพูดว่า นายเป็นฮีโร่โดยไม่มีอัตลักษณ์ได้” ที่ทำให้ความฝันของมิโดริยะสลายลงตรงนั้น เพราะ 100 คำดูถูกจากคนอื่น ยังไม่เจ็บปวดเท่า 1 ‘ความจริง’ จากคนที่เคารพและศรัทธา
แต่แล้วในสถานการณ์วิกฤตที่อัจฉริยะบาคุโกตกอยู่ในอันตราย และฮีโร่อันดับหนึ่งออลไมท์บาดเจ็บจนใช้พลังไม่ได้ มีเพียงแค่หนุ่มน้อยไร้อัตลักษณ์เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเพื่อนที่เคยแต่ดูถูกเขามาโดยตลอด
ณ ตอนนั้นออลไมท์ได้มองเห็นความจริงอย่างหนึ่งว่า แท้จริงแล้วคุณสมบัติของฮีโร่ไม่ได้อยู่ที่อัตลักษณ์หรือความสามารถสูงส่ง หากแต่เป็นจิตใจแข็งแกร่ง พร้อมเสียสละ และตัดสินใจถ่ายทอด ‘วันฟอร์ออล’ อัตลักษณ์สุดแข็งแกร่งที่อาจต้องแลกด้วยชีวิตให้มิโดริยะเป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไป
ถ้าวันฟอร์ออลตกไปอยู่ในมือของคนที่มีอัตลักษณ์ตามปกติ พลังนี้จะเป็นเพียงแค่อีก ‘หนึ่ง’ พลัง ที่ทำให้ผู้ใช้มีความสามารถแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
แต่ในทางกลับกัน เมื่อวันฟอร์ออลตกเป็นของมิโดริยะที่ไม่เคยสัมผัสพลังใดๆ มาก่อน วันฟอร์ออลจึงไม่ได้เป็นแค่อัตลักษณ์ แต่หมายถึงความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่เปลี่ยนชีวิตให้คนธรรมดาที่ถูกปรามาสว่า ‘ทำอะไรไม่ได้’ มีโอกาสได้เข้าใกล้ความเป็น ‘ฮีโร่’ ที่เพียงแค่ฝันก็ยังไม่มีสิทธิ์เป็นครั้งแรกในชีวิต
ยิ่งรับรู้ความเจ็บปวดของการเป็นคนธรรมดามากเท่าไร มิโดริยะก็ยิ่งรู้ซึ้งถึงคุณค่าของความพิเศษที่ตัวเองได้รับมากเท่านั้น และพร้อมพลีกายถวายชีวิต เพื่อรักษาและพัฒนาความสามารถของตัวเองไปถึงขีดสุด
ถึงแม้มีอยู่หลายครั้งที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะไม่สามารถควบคุมพลังได้อย่างใจ แต่เขาก็ยังคงทุ่มเทอย่างสุดกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบแข่งขันจนเอาชนะอัจฉริยะบาคุโกได้ โดยเฉพาะเมื่อไรก็ตามที่มีคนตกอยู่ในอันตราย มิโดริยะจะเป็นคนแรกที่พร้อมเสี่ยงชีวิตช่วยเหลืออย่างไม่ลังเล
คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่า ชีวิตของมิโดริยะใน My Hero Academia ไม่แตกต่างอะไรไปจากตัวเอกในการ์ตูนโชเน็นเรื่องอื่นๆ ที่ตอนหลังพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด แต่ในขณะเดียวกัน เรื่องราวของพวกเขาก็แทบไม่ต่างอะไรไปจากชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงที่หลายคนต้องเจอ โดยเฉพาะคนที่เต็มไปด้วยแพสชันและความฝัน ที่มักจะเจอบททดสอบสุดหิน ที่ทำให้กลับมาตั้งคำถามกับความสามารถและสิ่งที่กำลังฟันฝ่าอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราข้ามผ่านบททดสอบเหล่านั้น ไม่ใช่อัตลักษณ์หรือพลังแข็งแกร่งที่มิโดริยะรับสืบทอดมา แต่เป็นหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและทุกคำดูถูกเหยียดหยาม กัดฟันรับความเจ็บปวด ผิดหวัง เตรียมร่างกาย เตรียมหัวใจ และอดทนรออย่างเงียบสงบ แบบที่คนเคยอ่อนแออย่างมิโดริยะยึดมั่นมาโดยตลอด
และวันใดที่แสงแห่งความหวังโผล่มาให้เห็นเพียงแค่เสี้ยววินาที คว้าโอกาสนั้นไว้ให้มั่น ทุ่มเททั้งวิญญาณและชีวิตเพื่อพิชิตความฝัน ด้วยพลังของคนธรรมดาที่แสนพิเศษ ที่อาจจะฟังดูน่าเบื่อไปหน่อย
แต่เชื่อเถอะว่าได้ผลจริงๆ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล