ฮายาโอะ มิยาซากิ แอนิเมเตอร์ระดับตำนานผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ที่สร้างสรรค์ผลงาน กวาดรางวัลมานับไม่ถ้วน และครองตลาดภาพยนตร์แอนิเมชันในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าเวลานี้วงการแอนิเมชันจะมีผลงานจากดาวรุ่งเข้ามาท้าทายบัลลังก์ราชาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมไปถึงภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องดังอย่าง ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ที่เพิ่งโค่นตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อปีที่ผ่านมา
ฮายาโอะ มิยาซากิ และ โทชิโอะ ซูซูกิ ผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอจิบลิที่แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน มิยาซากินั้นทุ่มเทแรงกายใจให้กับการกำกับภาพยนตร์แอนิเมชัน ส่วนซูซูกินั้นเป็นโปรดิวเซอร์และรับหน้าที่คุยกับสื่อมวลชนและแฟนคลับควบคู่ไปด้วย ซูซูกิเป็นแหล่งข้อมูลวงในที่ดีที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในสตูดิโอ และยังเป็นคนที่สามารถบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในใจของมิยาซากิด้วย ในบางครั้งระหว่างการสัมภาษณ์ ซูซูกิมักจะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับมิยาซากิมาเล่าให้สื่อฟังเสมอ
โดยล่าสุดเขาก็เพิ่งบอกเล่าประเด็นความรู้สึกของตำนานแอนิเมเตอร์อย่างมิยาซากิ ที่มีต่องานภาพยนตร์แอนิเมชันที่กำลังมาแรงที่สุดในนาทีนี้ ในระหว่างไปร่วมรายการทอล์กโชว์ Bokura no Jidai เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ระหว่างพูดคุยกันถึงประเด็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ซึ่งซูซูกิก็ได้บอกเล่าการตอบสนองของมิยาซากิต่อปรากฏการณ์นี้ว่า
“มิยาซากิพูดกับผมว่า ‘ดูเหมือนว่า ดาบพิฆาตอสูร จะได้รับความนิยมอย่างมาก’ ผมยังไม่เคยดูแอนิเมะหรืออ่านมังงะที่เอามาใช้ทำภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้เลย แต่ผมเคยได้ยินเรื่องนี้จากคนอื่น ดังนั้นผมจึงเล่าเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร แบบภาพรวมให้มิยาซากิฟัง มิยาซากิก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึมแล้วพูดกับผมว่า
“ใช่ แอนิเมะแบบนั้นจะต้องประสบความสำเร็จ”
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยดู ก็ไม่ได้หมายความว่ามิยาซากิไม่สนใจแต่อย่างใด เพราะซูซูกิยังได้เล่าเสริมถึงสิ่งที่มิยาซากิพูดอีกว่า
“คุณก็รู้ สำหรับผม ดาบพิฆาตอสูร เป็นคู่แข่งของผม”
แม้ซูซูกิจะไม่ได้บอกว่ามิยาซากิยอมรับว่า ดาบพิฆาตอสูร เป็นคู่แข่งของเขาในตอนไหน ก่อนหรือหลังที่ Spirited Away จะถูกโค่นตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่น แต่น้ำเสียงของซูซูกิที่เลียนแบบมิยาซากิในตอนที่พูดความคิดเห็นเหล่านั้นออกมาก็ไม่ได้ดูเกรี้ยวกราดหรือโมโห จึงสรุปได้ว่าผู้กำกับและแอนิเมเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสตูดิโอจิบลินั้นไม่ได้โกรธเคืองหรือเป็นเดือดเป็นแค้นอะไรกับการที่หนึ่งในผลงานระดับมาสเตอร์พีซของเขาถูก ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ โค่นตำแหน่ง แต่เขาหยิบเอาเหตุการณ์นั้นมาผลักดันตัวเองให้สร้างสรรค์ผลงานที่เยี่ยมยอดยิ่งๆ ขึ้นไปอีก
ซึ่งจากสิ่งที่ซูซูกิเล่าให้ฟัง ดูเหมือนว่าคนที่น่าจะได้ผลประโยชน์ น่ายินดี และตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากที่สุดคือแค่เหล่าแฟนๆ ผลงานแอนิเมเตอร์ที่เชื่อได้แน่ว่าเราจะได้ดูงานชิ้นใหม่อันยอดเยี่ยมยิ่งๆ ขึ้นอีกในอนาคตอย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: