×

ดัชนี Hang Seng ดิ่งหนัก 6% ต่ำสุดรอบ 6 ปี บรรดาหุ้นเทคยังไร้จุดต่ำสุด

15.03.2022
  • LOADING...
ดัชนี Hang Seng

ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงในวันนี้ (15 มีนาคม) ปิดตลาดลดลงเกือบ 6% มาอยู่ที่ระดับ 18,415 จุด ลดลง 1,116 จุด หรือ 5.72% โดยในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีร่วงลงมาแล้วกว่า 12%

 

ขณะที่ Bloomberg ระบุว่า การดิ่งลงของดัชนีในรอบนี้ถือว่าหนักที่สุดนับแต่วิกฤตการเงินเมื่อปี 2008 โดยหุ้นอย่าง Alibaba และ Tencent ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงเป็นตัวนำลงมาในรอบนี้ 

 

ความกังวลล่าสุดที่เกิดขึ้นมาในตลาดคือความเสี่ยงที่จีนยังคงไม่มีท่าทีจะสนับสนุนการคว่ำบาตรรัสเซียที่อาจจะนำมาซึ่งการคว่ำบาตรจีนเพิ่มเติมในอนาคต รวมถึงความกังวลที่หุ้นจีนอาจจะถูกถอดออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

 

หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่า จีนไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะบ่อนทำลายกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศและกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในทุกประเทศ 

 

“แรงขายรุนแรงเกินไปมาก ตลาดกำลังบ้าคลั่งมากจนเกินเรื่องของปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว มันอาจจะแย่กว่าวิกฤตการเงินในปี 2008 ด้วยซ้ำ” แอนดี เมย์นาร์ด หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนของ China Renaissance Securities กล่าว 

 

ขณะที่ หยูหยิงป๋อ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของ Shenzhen Qianhai United Fortune Fund Management กล่าวว่า เมื่อศรัทธาหมดไป ผู้คนก็พร้อมที่จะเห็นแต่ด้านลบในทุกๆ สิ่ง บางคนอาจจะระแวงแม้กระทั่งตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี

 

ล่าสุด Sentiment ต่อหุ้นเทคโนโลยีของจีนเปลี่ยนเป็นความกลัว หลังจากที่ความกังวลต่อการที่จีนจะถูกคว่ำบาตรเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่จีนให้ความช่วยเหลือรัสเซียในการทำสงครามที่เกิดขึ้น

 

การดิ่งลง 11% ของดัชนี Hang Seng Tech เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 มีนาคม) นับเป็นการดิ่งลงมากสุดในหนึ่งวันหลังจากที่ดัชนีดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 ขณะที่นักวิเคราะห์ของ JPMorgan Chase & Co. มองว่า หุ้นอินเทอร์เน็ตของจีนบางตัวเป็นหุ้นที่ไม่น่าลงทุน

 

ขณะที่ ซีซาร์ พีเรซ รูซ หัวหน้าฝ่ายลงทุนของ Pictet Wealth Management ระบุว่า “เราให้น้ำหนักหุ้นจีนต่ำกว่าตลาดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีจะยังคงย่ำแย่ต่อไปจากเรื่องของกฎเกณฑ์ รวมถึงความเสี่ยงจากการถูกถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการเทขายหุ้นโกรธเนื่องจากดอกเบี้ยที่กำลังเพิ่มขึ้น” 

 

ในขณะที่นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs ได้ปรับลดมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นจีนลงบางส่วน โดยรวมยังคงให้น้ำหนักหุ้นจีนมากกว่าตลาด เนื่องจากโอกาสในการเติบโตในอนาคต การผ่อนคลายนโยบาย อย่างไรก็ตาม ด้วยความเสี่ยงและบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกในขณะนี้ทำให้ปรับลดเป้าหมายมูลค่าในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลงจาก 14.5 เท่า มาอยู่ที่ 12 เท่า

 

อ้างอิง:

 


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth

Instagram: instagram.com/thestandardwealth

Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising