×

Haikyu!!, Yowamushi Pedal, Slam Dunk กับ 3 จุดเริ่มต้นที่ส่งให้เหล่าตัวละครหลักตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามแข่งขัน

26.07.2021
  • LOADING...
Slam Dunk

การ์ตูนกีฬานับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวการ์ตูนของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทั้งเนื้อหาที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของมิตรภาพ การแข่งขัน และบทเรียนที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ในโลกความเป็นจริง

 

แต่สิ่งสำคัญที่ส่งให้การ์ตูนกีฬาเหล่านั้นสามารถครองใจผู้อ่านคือ เรื่องราวจุดเริ่มต้นของเหล่าตัวละครหลักที่ชักชวนให้ผู้ชมเฝ้าติดตามตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่าน 

 

เพื่อต้อนรับการแข่งขันโตเกียว 2020 THE STANDARD POP ขอพาเหล่าคอการ์ตูนไปร่วมย้อนชมจุดเริ่มต้นของ 3 ตัวละครหลักจาก 3 การ์ตูนกีฬายอดฮิตอย่าง ฮินาตะ โชโยะ จาก Haikyu!!, โอโนดะ ซาคามิจิ จาก Yowamushi Pedal และ ซากุรางิ ฮานามิจิ จาก Slam Dunk ที่ส่งให้ตัวละครเหล่านี้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามแข่งขัน และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการ์ตูนกีฬาที่ผู้อ่านทั่วโลกต่างหลงรัก

 

ความพ่ายแพ้, ความบังเอิญ และความรัก 

 

 

ฮินาตะ โชโยะ – Haikyu!!: เพราะ ‘ความพ่ายแพ้’ คือแรงผลักดันที่ไร้ขีดจำกัด

 

บางครั้งแรงขับเคลื่อนที่พาเราไปสู่ความฝันก็มาจาก ‘ความพ่ายแพ้’

 

เช่นเดียวกับเรื่องราวของ ฮินาตะ โชโยะ เด็กหนุ่มมัธยมต้นร่างเล็กที่ได้ไปเห็นการแข่งขันวอลเลย์บอลของ ‘ยักษ์จิ๋ว’ แห่งโรงเรียนคาราสึโนะ ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับมัธยมปลาย ภาพการลอยตัวของยักษ์จิ๋วที่เปรียบเสมือน ‘อีกา’ กำลังโผบินอยู่บนอากาศ ได้จุดประกายไฟเล็กๆ ขึ้นมาใจของฮินาตะ พร้อมกับความหวังที่ว่าคนตัวเล็กอย่างเขาก็สามารถเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลได้เช่นกัน

 

“ผมจะเป็นนักวอลเลย์บอลแบบเดียวกับยักษ์จิ๋วแห่งคาราสึโนะให้ได้ครับ!”

 

จากนั้นฮินาตะจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อฝึกฝนการเล่นวอลเลย์บอลของตัวเอง ทั้งการตัดสินใจเข้าทีมวอลเลย์บอลหญิงเพียงคนเดียว ขยันฝึกซ้อมแม้ว่าจะต้องซ้อมกับกำแพงเพียงคนเดียว และค่อยๆ รวบรวมผองเพื่อนและรุ่นน้องทีละคนจนสามารถตั้งทีมวอลเลย์บอลชายเพื่อลงแข่งขันวอลเลย์บอลระดับมัธยมต้นได้สำเร็จ 

 

แต่ดูเหมือนว่าฮินาตะและเพื่อนๆ จะต้องเจอกับทีมสุดแกร่งตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อคู่แข่งของพวกเขาคือโรงเรียนคิตางาวะไดอิจิ ซึ่งมี คาเงยามะ โทบิโอะ ผู้ถูกเรียกขานว่าราชาแห่งสนามอยู่ในทีม แต่ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเก่งกาจแค่ไหน ฮินาตะก็ยังคงเล่นอย่างเต็มที่ พร้อมกับคอยให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่ขาดสาย

 

แน่นอนว่าในท้ายที่สุดฮินาตะจะพ่ายแพ้ให้กับคาเงยามะแบบขาดรอย จนทำให้เขารู้สึกว่าการฝึกซ้อมอย่างหนักมาตลอด 3 ปีเป็นเพียงความว่างเปล่า แต่แทนที่ฮินาตะจะจมปลักอยู่กับความพ่ายแพ้ เขากลับเลือกที่จะเผชิญหน้ากับคาเงยามะ แล้วร้องตะโกนออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงเบื้อนอยู่บนใบหน้า  

 

“ฉันจะเอาชนะนายเอง แล้วฉันจะเป็นคนสุดท้ายที่ยืนบนสนามแข่ง”

 

หากการได้เห็นการแข่งขันของยักษ์จิ๋งแห่งโรงเรียนคาราสึโนะคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฮินาตะเริ่มจับลูกวอลเลย์บอล ความพ่ายแพ้ให้กับคาเงยามะในครั้งนี้ก็คงไม่ต่างจากแรงผลักดันที่ไร้ขีดจำกัดที่ส่งให้ฮินาตะตั้งใจฝึกฝนเพื่อเอาชนะคาเงยามะ

 

โดยที่ไม่รู้เลยว่าในอนาคตอันใกล้เขาจะต้องกลายเป็นเพื่อนร่วมทีมกับคาเงยามะ

 

 

โอโนดะ ซาคามิจิ – Yowamushi Pedal: เพราะ ‘ความบังเอิญ’ ที่ไม่คาดฝัน เขาจึงได้ค้นพบกับมิตรภาพและขีดจำกัดของตัวเอง  

 

“Hime Hime Hime Suki Suki Daisuki Hime…”

 

เชื่อว่าหากคอการ์ตูนกีฬาได้ยินทำนองเพลงข้างต้น ภาพของ โอโนดะ ซาคามิจิ เจ้าหนุ่มโอตาคุผู้มาพร้อมกับจักรยานแม่บ้านคู่ใจจาก Yowamushi Pedal จะต้องปรากฏขึ้นมาในทันที แต่ก่อนที่โอโนดะจะก้าวเข้าสู่การแข่งขันจักรยานเสือหมอบ จุดเริ่มต้นของเขาค่อนข้างจะเต็มไปด้วย ‘ความบังเอิญ’

 

โอโนดะ เด็กหนุ่มโอตาคุที่ตัดสินใจย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนโชโฮคุ เพื่อหวังว่าจะได้เข้าชมรมแอนิเมะและได้พูดคุยกับเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนกัน แต่กลับกลายเป็นว่าชมรมแอนิเมะกลับถูกยุบไปก่อน เขาจึงต้องออกตระเวนหาสมาชิกเพื่อก่อตั้งชมรมอีกครั้ง

 

จนกระทั่งวันหนึ่งในระหว่างที่โอโนดะกำลังจะปั่นจักรยานแม่บ้านคู่ใจเพื่อไปอากิฮาบาระ เขาก็ ‘บังเอิญ’ พบกับ อิมาอิสึมิ ชุนสุเกะ เด็กหนุ่มนักปั่นจักรยานเสือหมอบที่กำลังจะซ้อมปั่นจักรยานที่หลังโรงเรียน และเมื่ออิมาอิสึมิได้เห็นพลังขาในการไต่เขาของโอโนดะ ทั้งๆ ที่ใช้จักรยานแม่บ้าน อิมาอิสึมิจึงตัดสินใจท้าโอโนดะแข่งปั่นจักรยานเพื่อวัดความสามารถ โดยมีข้อเสนอว่าหากโอโนดะชนะเขาจะยอมเข้าชมรมแอนิเมะด้วย 

 

แม้ว่าในท้ายที่สุด โอโนดะจะพ่ายแพ้ให้กับอิมาอิสึมิ แต่การแข่งขันครั้งนี้ก็ทำให้โอโนดะเริ่มสัมผัสได้ถึงความสนุกของการปั่นจักรยานเป็นครั้งแรก ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากมองเห็นความสามารถ อิมาอิสึมิยังชวนให้โอโนดะเข้าชมรมจักรยานอีกด้วย

 

“ถ้ายิ่งปั่นฉันที่จะยิ่งไปได้ไกล สนุกดีเนอะอิมาอิสึมิคุง”

 

ไม่นานจากนั้น โอโนดะก็ได้ ‘บังเอิญ’ มาพบกับ นารุโกะ โชคิจิ เด็กหนุ่มหัวแดงผู้เลือดร้อนที่พึ่งจะย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนโซโฮคุเหมือนกัน ซึ่งนารุโกะก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้เห็นพลังการปั่นจักรยานของโอโนดะ นารุโกะจึงชวนให้โอโนดะไปดูการฝึกซ้อมของชมรมจักรยาน เพื่อหวังว่าโอโนดะจะเปลี่ยนใจมาเข้าชมรมด้วยกัน

 

จากเด็กหนุ่มโอตาคุที่ไม่มีเพื่อนคบ แต่เพราะ ‘ความบังเอิญ’ ที่นำพาให้โอโนดะได้มาเจอมิตรภาพอย่างอิมาอิสึมิ, นารุโกะ และสมาชิกชมรมจักรยาน รวมถึงความสนุกของการปั่นจักรยานที่ไม่เคยคิดฝัน โอโนดะจึงตัดสินใจที่จะเข้าชมรมจักรยานเพื่อที่จะลองท้าทายขัดจำกัดของตัวเอง 

 

“ตอนที่ฉันเห็นชมรมจักรยานซ้อมกัน ฉันรู้สึกได้ถึงบางอย่าง ความหลงใหล ฉันอยากไล่ตามพวกเขา ฉันอยากลองดู ถ้าฉันมีศักยภาพและคุณสมบัติพอสำหรับชมรมจักรยานล่ะก็ ฉันก็อยากจะเข้าชมรม”

 

และเรื่องราวการเดินทางสู่การแข่งขันอินเตอร์ไฮด์ที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและมิตรภาพของเด็กหนุ่มโอคาคุน่องเหล็กก็ได้เริ่มต้นขึ้น

 

 

ซากุรางิ ฮานามิจิ – Slam Dunk: เพราะ ‘ความรัก’ จึงทำให้เขาก้าวเข้าสู่สนาม และได้รับบทเรียนขั้น ‘พื้นฐาน’ อันล้ำค่า

 

“คุณชอบบาสเกตบอลหรือเปล่าคะ”

 

จุดเริ่มต้นของใครหลายคนที่อยากจะเป็นนักกีฬาอาจเริ่มมาจากความใฝ่ฝันที่อยากจะคว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับโลก หรือมาจากความต้องการข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

 

แต่สำหรับ ซากุรางิ ฮานามิจิ หนึ่งในสมาชิกชมรมบาสเกตบอลแห่งโรงเรียนมัธยมโชโฮคุ กลับมีจุดเริ่มต้นมาจาก ‘ความรัก’

 

ซากุรางิ เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มาพร้อมกับผมสีแดงอันโดดเด่น ทุกคนต่างรู้จักเขาในฐานะนักเลงที่เก่งกาจในเรื่องต่อยตีจนผู้คนต่างหวาดกลัว แต่ไม่ว่าซากุรางิจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่เคยชนะใจหญิงสาวที่ชื่นชอบได้เลยสักครั้ง ถึงขนาดทำสถิติถูกสาวหักอกมาแล้วกว่า 50 ครั้ง

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง ในระหว่างที่ซากุรางิกำลังโศกเศร้ากับการถูกผู้หญิงคนล่าสุดหักอกเพราะดันไปชอบนักบาสเกตบอลมากกว่า จู่ๆ อาคางิ ฮารุโกะ หญิงสาวร่างเล็กก็เดินเข้ามาถามซากุรางิว่าชอบเล่นบาสเกตบอลหรือเปล่า ซากุรางิที่ตกหลุมรักฮารุโกะตั้งแต่แรกเห็นจึงตอบกลับไปทันทีว่าชอบบาสเกตบอล ทั้งๆ ที่ตัวเองเล่นกีฬาไม่เป็นเลยสักอย่าง 

 

เมื่อซากุรางิรู้ว่าฮารุโกะชื่นชอบบาสเกตบอล เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้าชมรมบาสเกตบอลของโรงเรียน จนกระทั่ง อาคางิ ทาเคโนริ กัปตันชมรมบาสเกตบอลและเป็นพี่ชายของฮารุโกะที่เคยเห็นความสามารถของซากุรางิมาแล้ว (แม้จะเกิดจากการทะเลาะกันก็ตาม) จึงอนุญาตให้เขาเข้าชมรม  

 

เนื่องจากซากุรางิไม่เคยเล่นกีฬามาก่อน เขาจึงต้องมาเริ่มฝึกพื้นฐานใหม่ตั้งแต่ศูนย์ จนเวลาผ่านไปได้ไม่นาน ซากุรางิที่เบื่อหน่ายกับการฝึกพื้นฐานจึงเริ่มมีปากเสียงกับอาคางิที่ไม่ยอมอนุญาตให้ลงไปเล่นในสนามเหมือนคนอื่นๆ จนทำให้ซากุรางิตัดสินใจลาออกจากชมรมไปด้วยความเดือดดาล 

 

“นายไม่เข้าใจคำว่ากีฬาเลยสักนิดเดียว รู้ไหมว่าพื้นฐานสำคัญขนาดไหน ต่อให้นายดังก์เก่งยังไง ถ้าไม่รู้พื้นฐานก็มีแต่แพ้กับแพ้เท่านั้น”

 

จากจุดเริ่มต้นที่ซากุรางิอยากเข้าชมรมบาสเกตบอลเพื่อหวังว่าจะเอาชนะใจฮารุโกะ จนกระทั่งเขาได้มาค้นพบความจริงว่า การที่เราจะสามารถเล่นกีฬาชนิดหนึ่งให้เชี่ยวชาญ ย่อมไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าทักษะอันเก่งกาจคือพื้นฐานอันมั่นคงที่จะพาเราไปสู่ทักษะใหม่ๆ ในอนาคต

 

เมื่อซากุรางิตระหนักได้ถึงความหมายของคำว่าพื้นฐาน เขาจึงตัดสินใจกลับไปยังชมรมอีกครั้งเพื่อฝึกการส่งลูก โดยมีฮารุโกะคอยยืนให้กำลังใจอยู่ข้างสนาม และกลายเป็นจุดเริ่มต้นสู่เส้นทางการแข่งขันบาสเกตบอลอันดุเดือดที่เขาไม่เคยคาดฝัน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising