‘กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ’ ประกาศเซ็นสัญญาขายไฟฟ้าโครงการร่วมทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay กำลังผลิต 770 เมกะวัตต์ กับ กฟผ. ได้สัญญาระยะยาว 29 ปี คาดโครงการเสร็จสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ปี 2575 หนุนราคาหุ้น GULF บวก 1% สวน SET
ยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 บริษัทและ Sinohydro (Hong Kong) Holding Ltd. (SHK) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Power Construction Corporation of China Ltd. (POWERCHINA) ซึ่งมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้า (Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ (MW) ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และจะขายไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ให้แก่ กฟผ. ในอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 2.6989 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 Pak Lay Power Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯ และ SHK จัดตั้งขึ้น เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ SHK ถือหุ้น 60% ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับ กฟผ. โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้ามีระยะเวลา 29 ปีนับจากวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ซึ่งโครงการมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 มกราคม 2575
โดยโครงการโรงไฟฟ้า Pak Lay เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่านตลอดปี (Run-of-the-River) ที่ไม่มีการกักเก็บน้ำในรูปแบบของเขื่อนประเภทอ่างเก็บน้ำ (Reservoir) และไม่มีการเบี่ยงน้ำออกจากแม่น้ำโขง แต่ใช้การไหลของน้ำตามธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าโดยที่ปริมาณน้ำไหลเข้าเท่ากับปริมาณน้ำไหลออก ดังนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง
การเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ ในการเข้าสู่ตลาดพลังน้ำใน สปป.ลาว และสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)
ขณะการเคลื่อนของราคาหุ้น GULF วันนี้ (20 มีนาคม) เปิดการซื้อขายที่ 50.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ (17 มีนาคม) โดยช่วงระหว่างการซื้อขายวันนี้บวกขึ้นสวนกับทิศทาง SET Index โดยไปทำจุดสูงสุดที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ถึงเวลา ‘บิ๊กคอร์ป’ ลงสนาม Data Center หลังความต้องการในไทยพุ่ง-ทุนนอกเล็งใช้เป็น Hub แทนสิงคโปร์
- เมื่อยักษ์ใหญ่ ‘Data Center’ ปักหมุดลงทุนไทย 1.9 แสนล้านบาท เราจะได้อะไรจากการมาครั้งนี้
- GULF’ ทุ่มเงินกว่า 1 หมื่นล้าน ฮุบหุ้น THCOM เหมาจาก INTUCH 41.13% พร้อมลุยเทนเดอร์ต่อ คาดทำครบเงื่อนไขไตรมาส 1 ปีหน้า