เกร็กก์ โพโพวิช โค้ชผู้ยิ่งใหญ่ กับการต่อสัญญาคุมทีมซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ออกไปอีก 5 ปี

เพียงวันเดียวหลังจากที่ วิคเตอร์ เวมบันยามา ทำตัวเลขในเกมแรกใน NBA ได้ไม่ถึงเลข 2 หลัก ทั้งสกอร์และรีบาวด์ โดยจบเกมเขามีเพียง 9 คะแนน กับ 8 รีบาวด์ แม้ไม่นับว่าแย่สำหรับเด็กใหม่ แต่ก็เรียกได้ว่าไม่สมกับความคาดหวังของแฟนๆ โดยเฉพาะแฟนของทีมซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ทีมที่เพิ่งดราฟต์เขาเข้ามาในการดราฟต์ปีนี้

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 กรกฎาคม แฟนๆ ‘อลาโม ซิตี้’ ได้ดีใจกันบ้าง หลังจากที่ ‘โค้ชพ็อป’ เกร็กก์ โพโพวิช ตัดสินใจต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 5 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ทำให้เขายังคงดำรงตำแหน่งในทีมสเปอร์ส ทั้งในฐานะหัวหน้าโค้ชและประธานฝ่ายบาสเกตบอลของทีมต่อไป และจากรายงานของ ESPN โดย อาเดรียน วอจนารอฟสกี นักข่าวมือ 1 สายบาสเกตบอล NBA ระบุว่า เขาจะได้รับค่าจ้างในการเซ็นสัญญาครั้งนี้มูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,811 ล้านบาท

ตัวเลขดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้โค้ชพ็อปกลายเป็นโค้ชใน NBA ที่ได้รับค่าจ้างมากที่สุดในลีก ทำลายสถิติเดิมของ มอนตี วิลเลียมส์ ที่เพิ่งเซ็นสัญญารับหน้าที่โค้ชให้ดีทรอยต์ พิสตันส์ ก่อนหน้านี้ไม่นานด้วยสัญญา 6 ปี 78.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,758 ล้านบาท ลงไปเป็นที่เรียบร้อยด้วย

การตัดสินใจไปต่อของโค้ชพ็อปทำให้แฟนๆ สเปอร์สมีความเชื่อมั่นว่า ‘เวมบี’ จะกลายเป็นดาวจรัสแสงในศึก NBA ได้ในอนาคตอันใกล้ หลังจากที่หัวหน้าโค้ชวัย 74 ปีรายนี้ ซึ่งคุมทีมสเปอร์สมาเกือบ 3 ทศวรรษ เคยปั้นสตาร์ดังมามากมาย และพวกเขาก็พาทีมประสบความสำเร็จมาในหลายยุคหลายสมัย

ภายใต้การทำงานของบรมกุนซือผู้นี้เขาได้ดูแลผู้เล่น ‘นับเบอร์วันดราฟต์’ มาแล้ว 2 คน โดยคนแรกคือ เดวิด โรบินสัน ที่ถูกดราฟต์ในปี 1987 (ตอนนั้นเขายังเป็นผู้ช่วยโค้ชที่สเปอร์ส ก่อนกลับมาทำงานเป็นหัวหน้าโค้ชอีกครั้งในปี 1996) อีกคนคือ ทิม ดันแคน ที่ถูกดราฟต์ในปี 1997 ทั้งคู่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ การเป็นนักบาสเกตบอลที่ยอดเยี่ยมและประสบความสำเร็จในอาชีพ

โรบินสันคว้าแชมป์ NBA ได้ 2 สมัย โดยทั้งสองสมัยเป็นการคว้าแชมป์กับสเปอร์สในปี 1999 และ 2003 ขณะที่ดันแคนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่กว่าด้วยการคว้าแชมป์ NBA สมัย ในปี 1999, 2003, 2005, 2007 และ 2014 แถมยังได้ MVP ถึง 3 ครั้งในปี 1999, 2003 และ 2005 แน่นอนว่าทั้งหมดเกิดขึ้นที่สเปอร์ส เพราะทั้งคู่เล่นให้กับทีมเพียงทีมเดียวตลอดอาชีพ

นอกจากนี้โค้ชพ็อปยังเคยปั้นผู้เล่นชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของเวมบันยามาอย่าง โทนี ปาร์กเกอร์ ให้กลายมาเป็นสตาร์ดังใน NBA หลังช่วยทีมคว้าแชมป์ได้ 4 สมัย ในปี 2003, 2005, 2007 และ 2014 แถมเขายังแย่งซีนในรอบชิงชนะเลิศของศึกไฟนอลส์ ปี 2007 ด้วยการเป็น MVP ในรอบดังกล่าวด้วย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับทั้งท่านนายพล, ทิมมี่ และ โทนี พี คือ เกร็กก์ โพโพวิช คนนี้นี่เอง

แต่การคุมลูกทีมให้ประสบความสำเร็จในอาชีพเพียงอย่างเดียว อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกยกย่องว่า เป็นหนึ่งในหัวหน้าโค้ชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของวงการบาสเกตบอล NBA และหนึ่งในข้อพิสูจน์สำคัญนั้นคือการที่เขาสร้างซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ให้เป็นทีมชั้นแนวหน้า จนกลายเป็นหนึ่ง ‘ไดนาสตี้’ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศึกบาสเกตบอล NBA

ไดนาสตี้ (Dynasty) มีความหมายในวงการกีฬาอเมริกัน หมายถึง การขึ้นมาครอบครองความยิ่งใหญ่อย่างยาวนานของทีมกีฬาทีมใดทีมหนึ่ง โดยจะยึดอำนาจผูกขาดความสำเร็จเฉกเช่นเดียวกับที่ราชวงศ์ใดราชวงศ์หนึ่งครองอำนาจเหนือคนในประเทศ

ไดนาสตี้ของสเปอร์สภายใต้โค้ชพ็อปมีระยะเวลายาวนานนับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาดูแลทีมในปี 1996 และช่วยให้ทีมพัฒนาอย่างรวดเร็วจนสามารถคว้าแชมป์สมัยแรกของแฟรนไชส์ได้ในปี 1999 ทำให้ปัจจุบันสเปอร์สได้แชมป์มาแล้วทั้งหมด 5 สมัย โดยทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้ยุคสมัยของโพโพวิช

ความยอดเยี่ยมของเขายังการันตีได้ด้วยรางวัลหัวหน้าโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีถึง 3 สมัย ในปี 2003, 2012 และ 2014 นอกจากนี้เขายังได้เป็นโค้ชออลสตาร์อีก 4 สมัย ในปี 2005, 2011, 2013 และ 2016

โค้ชพ็อปยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 15 ยอดโค้ชตลอดกาลของศึกบาสเกตบอล NBA ในวาระที่ NBA ฉลองครบ 75 ในฤดูกาล 2021/22 ซึ่งเขาเป็น 1 ใน 4 คนจากลิสต์ดังกล่าวที่ยังคงเป็นโค้ชที่ทำงานอยู่ร่วมกับ สตีฟ เคอร์ จากโกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส, เอริก สโปลสตรา จากไมอามี ฮีต และ ด็อก ริเวอร์ส อดีตโค้ชฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส ที่ยังว่างงานอยู่

และจากลิสต์ 15 รายชื่อดังกล่าว มีโค้ชเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นที่คว้าแชมป์ได้ 5 สมัยขึ้นไป ได้แก่ เรด ออเออร์แบค ตำนานโค้ชบอสตัน เซลติกส์ ที่คว้าแชมป์ได้ 9 สมัย, ฟิล แจ็คสัน อดีตโค้ช NBA ยุค ไมเคิล จอร์แดน ที่เคยคุมทั้งชิคาโก บูลล์ส และแอลเอ เลเกอร์ส ที่คว้าแชมป์ได้ 11 สมัย, แพต ไรลีย์ อดีตโค้ชแอลเอ เลเกอร์ส, นิวยอร์ก นิกส์ และไมอามี ฮีต ที่คว้าแชมป์ได้ 5 สมัย และอีกคนคือโค้ชพ็อปนั่นเอง

แต่จำนวนแชมป์ไม่ใช่สิ่งเดียวเท่านั้นที่พิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของโพโพวิช เพราะเขายังครองสถิติพาทีมชนะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดตลอดกาล สำหรับโค้ชที่คุมทีมชนะมามากกว่า 1,200 เกมที่ 65.7%

เขายังเป็นโค้ชเพียงหนึ่งเดียวในหน้าประวัติศาสตร์วงการบาสเกตบอล NBA ที่อยู่กับทีมทีมเดียวมายาวนานกว่า 25 ปี และหากนับในวงการกีฬาอาชีพระดับเมเจอร์ของสหรัฐอเมริกาทั้ง 4 ลีก อันได้แก่ บาสเกตบอล NBA, อเมริกันฟุตบอล NFL, ฮอกกี้น้ำแข็ง NHL และเมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB) แล้ว เขาป็นเพียงโค้ชคนที่ 8 เท่านั้นที่อยู่กับทีมทีมเดียวเกิน 25 ปี

นอกจากความสำเร็จใน NBA แล้ว โค้ชพ็อปยังพิสูจน์ฝีมือในระดับนานาชาติมาแล้วด้วย จากการคุมทีมบาสเกตบอลชายทีมชาติสหรัฐอเมริกา และคว้าเหรียญทองในศึกโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา อีกต่างหาก

ความยิ่งใหญ่ของโพโพวิชยังส่งต่อไปถึงคนที่เคยทำงานกับเขาด้วย เพราะลูกศิษย์ลูกหาหลายคนที่เคยทำงานเป็นผู้ช่วยของเขามาก่อน ปัจจุบันก็เติบโตไปกลายเป็นหัวหน้าโค้ชในศึกบาสเกตบอล NBA และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจหลายต่อหลายคน อาทิ ไมค์ บูเดนโฮลเซอร์ อดีตโค้ชมิลวอกี บัคส์ ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์ NBA ในปี 2021, ด็อก ริเวอร์ส อดีตโค้ชซิกเซอร์ส ที่เคยพาบอสตัน เซลติกส์ เป็นแชมป์ในปี 2008, มอนตี วิลเลียมส์ หัวหน้าโค้ชดีทรอยต์ พิสตันส์ ที่เคยได้ตำแหน่งโค้ชแห่งปีเมื่อปีก่อน, เทย์เลอร์ เจนกินส์ หัวหน้าโค้ชเมมฟิส กรีซซ์ลีส์ ที่พาทีมทำผลงานได้ยอดเยี่ยมใน 2 ฤดูกาลหลัง รวมไปถึง สตีฟ เคอร์ ที่เคยพาวอร์ริเออร์สคว้าแชมป์ถึง 4 สมัย

นอกจากที่ว่ามาแล้ว แม้กระทั้งนักบาสเกตบอล NBA มากมาย รวมถึงสตาร์ดังหลายคนก็ยอมรับในฝีมือของเขา แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยเล่นให้กับโค้ชพ็อปเลยอย่าง เลอบรอน เจมส์ สตาร์เบอร์ต้นๆ ของ NBA ยังเคยออกมาแสดงความเห็นว่า โพโพวิชคือโค้ชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

เลอบรอนกล่าวว่า “ผมคิดว่าเขาเป็นโค้ชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในลีกของเรา เราเปลี่ยนจากลีกที่เคยเล่นวงในมาเป็นการเล่นวงนอก มันมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่พ็อปสามารถปรับตัวได้ทุกครั้ง และด้วยเหตุผลแปลกๆ บางอย่าง เขาทำให้เขาคุมเกมได้อยู่หมัด ซึ่งผมไม่เข้าใจเลย”

ทั้งหมดนั้นทำให้โพโพวิชได้รับการยอมรับจากทั้งคนในวงการและแฟนๆ บาสเกตบอลจำนวนมาก ยอมรับให้โค้ชคนนี้เป็นหนึ่งในหัวหน้าโค้ชที่ดีที่สุดตลอดกาล

และนั่นยังทำให้แฟนๆ ของซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ยังคงมั่นใจว่าจะมีอนาคตที่ดีสำหรับพวกเขาและ วิคเตอร์ เวมบันยามา รออยู่ หากชายที่ชื่อว่า เกร็กก์ โพโพวิช คนนี้ยังคงทำหน้าที่โค้ชที่เอที แอนด์ ที เซ็นเตอร์ ต่อไป

อ้างอิง: