×

Grab ยันพร้อมแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลและวินมอเตอร์ไซค์เต็มที่ ยอมถอยหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ

22.05.2018
  • LOADING...

หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (17 พ.ค.) กลุ่มผู้ขับวินมอเตอร์ไซค์จำนวนกว่า 2,000 คนได้รวมตัวประท้วงหน้าสำนักงานแกร็บ (Grab) ประเทศไทย อาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เพื่อเรียกร้องให้แกร็บปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่นำมอเตอร์ไซค์ป้ายขาวมาให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสาร

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในวันนี้ (22 พ.ค.) แกร็บประเทศไทยได้ออกมาประกาศยืนยันว่า บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือเดินหน้าทำงานร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 เต็มที่

 

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ประจำบริษัท แกร็บแท็กซี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราเข้าใจสถานการณ์ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะในประเทศไทยที่ต้องประสบความยากลำบากหลายด้าน ต้นทุน รายได้ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการประกอบอาชีพ ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาและเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างแบบเดิมจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและการประกอบอาชีพของตัวผู้ให้บริการที่ดีขึ้นได้ และยังตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของผู้โดยสาร การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายควรร่วมกันหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน

 

“เราพร้อมที่จะเจรจาให้ความร่วมมือกับภาครัฐและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและตรงตามความต้องการของทุกฝ่าย และยินดีจะร่วมหากระบวนการเยียวยาผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มีต้นทุนสูงร่วมกับรัฐ เพื่อให้ประเทศไทยเดินต่อไปได้ในกรอบนโยบายไทยแลนด์ 4.0”

 

แกร็บยังระบุอีกด้วยว่า กฎระเบียบการให้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะในปัจจุบันของไทยทำให้เกิดข้อจำกัดและความท้าทายต่อตัวผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์กับการให้บริการที่สอดคล้องกับบริบทของสังคมนี้เองที่จะช่วยแก้ไขปัญหาใน 3 ด้านอย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ

 

1.  เพิ่มรายได้ให้ผู้ขับขี่ (GrabBike Win รับ-ส่งผู้โดยสาร, GrabFood รับ-ส่งอาหาร และ GrabDelivery ส่งสิ่งของ)

2.  สร้างความปลอดภัยให้ตัวผู้ขับและผู้ใช้บริการ (ประกันอุบัติเหตุสูงสุด 150,000 บาท และประกันค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 7,500 บาท ครอบคลุมทั้งคนขับและวินมอเตอร์ไซค์)

3.  สร้างความโปร่งใสด้านราคาให้บริการ (มาตรฐานการกำหนดราคาให้บริการท่ี่โปร่งใส อ้างอิงจากกรมขนส่งทางบก)

 

ธรินทร์กล่าวว่า “เราเห็นว่าตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ (การเรียกร้องจากฝั่งวินมอเตอร์ไซค์) มีการแสดงมุมมองจากหลายฝ่ายต่อทั้งแกร็บและวินมอเตอร์ไซค์ที่มีทั้งถูกและผิด แต่ผมอยากให้ทุกท่านทราบว่า กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์เป็นส่วนประกอบสำคัญของแกร็บในวันนี้ วิสัยทัศน์ของแกร็บประเทศไทยมีอยู่ 3 อย่าง ข้อแรกสุดคือคนขับ เพื่อส่งเสริมรายได้ ให้โอกาสพัฒนาศักยภาพของพวกเขา ประการถัดมาคือสังคม ที่เราต้องการจะพัฒนาระบบคมนาคมให้ปลอดภัยและโปร่งใส และสุดท้ายคือเราต้องการทำงานกับหน่วยงานของรัฐให้สอดคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 และต้องการให้เกิด win-win situation กับทุกฝ่าย

 

อย่างไรก็ดี คำกล่าวเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์นั้น กลุ่มผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้กล่าวในการประท้วงแกร็บครั้งที่ผ่านมาแล้วว่า “ไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยี” เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับการนำมอเตอร์ไซค์ป้ายขาวเข้ามาให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งในอนาคตหากจะมีการนำมอเตอร์ไซค์ป้ายเหลืองมาให้บริการก็ต้องจำกัดขอบเขตไม่ให้บริการข้ามพื้นที่ด้วย

 

ต่อประเด็นนี้ธรินทร์บอกว่า ระบบของแกร็บมีการแบ่งชัดเจนว่า GrabBike Win (ป้ายเหลือง) และ GrabDelivery (ป้ายดำ) แต่ด้วยกรณีที่บางครั้งมอเตอร์ไซค์ป้ายเหลืองอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงทำให้บางครั้งอาจจะเห็นมอเตอร์ไซค์ป้ายดำออกไปวิ่งขับรับ-ส่งผู้โดยสารในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ยืนยันว่าไม่มีผลในการคุ้มครองผู้โดยสารและผู้ขับขี่ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินและอุบัติเหตุ

 

“เราเข้าใจกฎเกณฑ์ของกรมขนส่งทางบก (ห้ามมอเตอร์ไซค์ป้ายดำวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร) แต่กฎหมายที่เรามีในวันนี้ก็ต้องมองภาพย้อนกลับด้วยว่าสังคมมองเรื่องนี้ในปัจจุบันอย่างไร เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับกรมขนส่งฯ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมันก็ต้องเกิดสถานะที่วิน-วินกับรัฐบาล วินมอเตอร์ไซค์ ผู้ใช้บริการด้วย หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ เราก็ไม่ควรจะทำธุรกิจนี้ แกร็บเองก็คุยกับรัฐบาลและทุกหน่วยงานเยอะมาก แทบจะทุกวัน แต่มันก็ค่อนข้างเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อน จะใช้ระยะเวลากี่เดือนผมคงไม่ทราบ แต่ผมคิดว่ามันคงถึงเวลาที่เราควรมานั่งคุยกันอย่างจริงจังได้แล้ว”

 

พร้อมกันนี้แกร็บยังได้เชิญชวนผู้ขับขี่วินรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้เข้ามาร่วมทดลองให้บริการกับแกร็บโดยโปรโมชันพิเศษ ทดลองรับงาน 2 งานใน 7 วันแรก หรือ 14 งานใน 1 สัปดาห์ เพื่อรับ 1,000 บาท (ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน)

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising