×

GPSC – แนวโน้มดีขึ้นในปี 2566

23.11.2022
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) รายงานกำไรสุทธิ 3Q65 อยู่ที่ 331 ล้านบาท (เทียบกับกำไรเฉลี่ย 5 ปี ที่ 1.3 พันล้านบาทต่อไตรมาส) ยังคงได้รับแรงกดดันจากต้นทุนเชื้อเพลิงระดับสูงของธุรกิจ SPP 

 

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลประกอบการคือ ธุรกิจ IPP และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (หลักๆ จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าตามความต้องการพื้นฐานให้กับประเทศไทย และไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงสูง) 

 

ส่วนกำไรสุทธิ 9M65 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 78%YoY โดยมีสาเหตุมาจากขาดทุนจากการดำเนินงานสุทธิของธุรกิจ SPP ที่ 1.3 พันล้านบาท (เทียบกับกำไร 5.2 พันล้านบาท ใน 9M64) และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลง หลักๆ เกิดจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดีย เพราะต้นทุนทางการเงินสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยกำไรที่อ่อนแอใน 9M65 InnovestX Research จึงปรับประมาณการกำไรปี 2565 ลดลงจาก 5.3 พันล้านบาท สู่ 1.8 พันล้านบาท 

 

นอกจากนี้ การปรับค่า Ft รอบถัดไปยังไม่มีความแน่นอน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เสนอปรับค่า Ft รอบถัดไปสำหรับงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2566 ในช่วง 1.5831-2.2498 บาทต่อkWh ตัวเลขด้านต่ำสะท้อนถึงต้นทุนพลังงานที่คาดการณ์สำหรับรอบระยะเวลาดังกล่าว 

 

ในขณะที่ตัวเลขด้านสูงรวมเงินชดเชยให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อลดภาระจำนวน 8.15 หมื่นล้านบาท สำหรับเดือนกันยายน 2564 – สิงหาคม 2565 เนื่องจากผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงสูงไม่สามารถส่งผ่านไปยังผู้บริโภคได้ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม InnovestX Research มองว่าการปรับค่า Ft รอบถัดไปยังไม่มีความแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการเลือกตั้งทั่วไปกำลังใกล้เข้ามา 

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น GPSC ปรับเพิ่มขึ้น 13.22%MoM สู่ระดับ 78.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.91%MoM สู่ระดับ 1,621.67 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการ:

แนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นของ GPSC จะยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินระดับสูง แม้ว่าการขึ้นค่า Ft เป็น 0.9343 บาทต่อkWh จะมีผลเต็มไตรมาสใน 4Q65 เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 0.4766 บาทต่อkWh ใน 3Q65 ซึ่งเชื่อว่ามุมมองเชิงบวกของตลาดต่อการปรับค่า Ft สำหรับงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2566 (จะประกาศช่วงต้นเดือนธันวาคม) ถูกรับรู้ไปแล้ว เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้ว 16% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่ายังไม่มีความแน่นอน  

 

อย่างไรก็ตาม InnovestX Research คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานใน 4Q65 จะยังคงรักษาโมเมนตัมขาขึ้นเอาไว้ได้ เมื่อพิจารณาจากค่า Ft ที่สูงขึ้น นอกจากนี้กำไรสุทธิยังจะได้รับการสนับสนุนจากเงินชดเชยประกันภัยจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า Glow Energy Phase 5 นอกแผน จะช่วยสนับสนุน EBITDA Margin ของธุรกิจ SPP เนื่องจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าโคเจเนอเรชันของ GPSC 

 

ขณะที่ปี 2566 คาดผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้น YoY อันเป็นผลมาจากค่า Ft เฉลี่ยที่สูงขึ้น ในขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ดังนั้นตลาดจะยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อไป

 

ทั้งนี้ InnovestX Research ปรับเรตติ้งสำหรับ GPSC ขึ้นสู่ Outperform ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 84 บาทต่อหุ้น

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ต้นทุนเชื้อเพลิงสูงกว่าคาด, การเลื่อนปรับค่า Ft, ผลตอบแทนจากโครงการลงทุนใหม่ต่ำกว่าคาด และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising