เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก ปรับลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในสหรัฐอเมริกา จาก 25% เหลือ 20% หลังการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจ
โดยในช่วงต้นเดือนสิงหาคม นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ปรับเพิ่มความน่าจะเป็นที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอยจาก 15% ขึ้นไปเป็น 25%
หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payroll) ที่รายงานออกมา (2 สิงหาคม) เติบโตน้อยกว่าคาดที่ 114,000 ตำแหน่ง จากที่ประเมินไว้ 179,000 ตำแหน่งในช่วงเดือนมิถุนายน และ 185,000 ตำแหน่งที่ Dow Jones ประเมินไว้
ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสร้างความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกถูกเทขายในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนที่นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs จะประเมินตัวเลขดังกล่าวใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (17 สิงหาคม) ก่อนจะปรับลดความเสี่ยงในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจในช่วงหลัง ได้แก่ ยอดขายร้านค้าปลีกในเดือนกรกฎาคมที่ยังโต 1% จากที่ประมาณการไว้ 0.3% และยอดการใช้สิทธิ์คนว่างงานก็น้อยกว่าคาด ส่งผลให้ภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนไป และช่วยหนุนให้ราคาหุ้นฟื้นตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ยังมองว่า การรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในวันที่ 6 กันยายนที่จะถึงนี้ อาจทำให้ความเสี่ยงของการเกิด Recession ลดลงไปเหลือ 15% อย่างที่เคยประมาณการไว้ก็เป็นได้ หากไม่มีปัจจัยลบมากระตุ้นเพิ่มเติม
นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีโอกาสลดดอกเบี้ยลง 0.25% มากกว่าที่จะลดลงถึง 0.50%
อ้างอิง