×

ทองพุ่งแรงไม่หยุด ทุบสถิติใหม่ต่อเนื่อง รูปพรรณทะยานแตะ 40,450 บาท ตลาดต่างประเทศพุ่งทะลุ 2,300 ดอลลาร์

04.04.2024
  • LOADING...

การเคลื่อนไหวราคาทองคำในประเทศปรับภาคเช้าวันนี้ (4 เมษายน) เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามทิศทางราคาทองในตลาดโลกที่ล่าสุดดีดบวกทำสถิติสูงสุดใหม่ทะลุระดับ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

โดยสมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองแท่งรับซื้อเข้าขยับขึ้นมาที่บาททองคำละ 39,880 บาท ขายออกบาททองคำละ 39,950 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 39,127.96 บาท ขายออกบาททองคำละ 40,450 บาท ถือเป็นราคาที่ทะยานทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง

 

ด้านบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งทั้งทองโลกและทองไทยขึ้นสู่ All-Time High อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเงินดอลลาร์อ่อนค่าเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ หลังดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมีนาคม โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ออกมาแย่กว่าตลาดคาด แม้ว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงเน้นย้ำจะไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนประธาน Fed สาขาแอตแลนตา คาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/67 ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 1.72 ตัน

 

โดยราคาทองคำยังคงยก Low และ High อย่างต่อเนื่อง และขึ้นไปแตะ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกทั้งยังปิดตลาดใกล้ระดับ All-Time High ใหม่ จับตาบริเวณ 2,300-2,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังทะลุผ่านขึ้นไป จะมีแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านต่อไปที่ 2,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

โดยราคาทองคำแท่งยังคงเดินหน้าทำ All-Time High ขณะที่เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า ซึ่งอาจทำให้เงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่า ซึ่งจะกดดันราคาทองคำแท่งในประเทศ แต่คาดว่ากดดันไม่มากนัก ยังคงแนะนำสำหรับคนที่ถือทองคำให้ Let Profit Run ต่อไป ซึ่งอาจได้เห็นราคาทองคำเหนือ 40,000 บาท

 

YLG ปรับเพิ่มเป้าราคาทองคำปี 2567 

 

พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง ส่วนทองคำรูปพรรณล่าสุดราคาได้ทะลุ 40,000 บาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ให้ไว้เช่นกัน 

 

โดยการปรับขึ้นมาครั้งนี้ถือว่ามีนัยสำคัญ เนื่องจากราคากำลังทดสอบเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้ว่าจะไปถึง 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ภายในครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี ความร้อนแรงของราคาทองคำในครั้งนี้ แม้ในระยะสั้นอาจเริ่มเห็นแรงขายทำกำไร แต่เมื่อราคาย่อตัวจะเป็นโอกาสเข้าซื้อใหม่ ในระยะยาวนั้นค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง ยังมองว่าไปได้ต่อ โดยในปีนี้วายแอลจีได้ปรับประมาณการเป้าหมายใหม่ไว้ที่ 2,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักๆ มาจาก 4 ปัจจัยดังนี้

 

  1. การคาดการณ์ที่ว่าวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed สิ้นสุดลงแล้ว และเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ พร้อมคาดการณ์ตลาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งส่งผลกดดันดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ร่วงลง จนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ทะยานขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นมา และจากการประชุม Fed รอบล่าสุดในเดือนมีนาคม Dot Plot ระบุว่า เจ้าหน้าที่ Fed คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งในปีนี้เช่นกัน

 

  1. โมเมนตัมทางเทคนิค หลังจากราคาทะลุเป้าหมายของปีนี้ ราคาทะลุแนวสำคัญทางเทคนิคหลายประการ ทั้งนี้ ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น สามารถเบรกเส้นค่าเฉลี่ย และยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกระยะ พร้อมทั้งทะลุจุดสูงสุดเดิมของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง เมื่อย่อตัวลงก็มีการยกระดับต่ำสุดขึ้นมาได้ ซึ่งทำให้ภาพรวมราคาทองคำเปลี่ยนจากแกว่งตัว (Sideway) เป็นปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง (Bullish)

 

  1. ความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งจากจีน ราคาทองคำในจีนซื้อขายในระดับราคาที่สูงกว่าราคาทองคำในตลาดโลก (Premium) เป็นหนึ่งในตัวเลขที่สะท้อนปริมาณความต้องการทองคำในจีนได้เป็นอย่างดี ในเวลาที่ปริมาณความต้องการทองคำในจีนเพิ่มสูงขึ้น แรงซื้อทองคำจากชาวจีนจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาทองคำในประเทศจีนให้ปรับตัวสูงขึ้นตาม นอกจากนี้ ยังเกิดการไหลเข้าของเงินทุนสู่กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำของจีน (ETFs) เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีกระแสเงินทุนไหลเข้า 778 ล้านหยวน (109 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และผลักดันสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกองทุน (AUM) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3.1 หมื่นล้านหยวน (4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) วายแอลจีเชื่อว่าความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งจากจีนทั้งในด้านทองคำกายภาพและกองทุน ETFs เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันราคาทองคำในปีนี้

 

  1. แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงดำเนินต่อไปในปี 2567 ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าถือครองทองคำเพิ่มอีก 39 ตันในเดือนมกราคม นำโดยตุรกีและจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ โดยเพิ่มการถือครองทองคำ 12 ตัน และ 10 ตัน ตามลำดับ ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อสุทธิทองคำเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ดังนั้นแล้ว แรงซื้อจากธนาคารกลางจึงจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ขณะที่ World Gold Council คาดว่าปี 2567 จะเป็นปีที่แข็งแกร่งอีกปีหนึ่งของความต้องการทองคำจากธนาคารกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในตลาดเกิดใหม่
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising