กานาเป็นประเทศแรกที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ผ่านโครงการ COVAX จำนวน 600,000 โดส

วานนี้ (24 กุมภาพันธ์) องค์การยูนิเซฟกานาและองค์การอนามัยโลกกานา ออกแถลงการณ์ร่วมระบุ กานาเป็นประเทศแรกที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ผ่านโครงการ COVAX โดยวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งชาติในอินเดียจำนวน 600,000 โดส ขนส่งถึงท่าอากาศยานนานาชาติโกโตกาในกรุงอักกรา เมืองหลวงของกานา หนึ่งในประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก เมื่อวานนี้ ราว 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

ด้าน เฮนเรียตตา โฟร์ ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟชี้ว่า “วันนี้นับเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ หลังจากที่เราวางแผนและทำงานกันมาอย่างหนัก จากความสำเร็จในการขนส่งวัคซีนล็อตแรกนี้ เราสามารถให้คำมั่นได้ว่า โครงการ COVAX จะช่วยประกันว่า ประเทศที่มีรายได้น้อยทั้งหลายจะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในสนามแข่งขันจัดหาวัคซีนเพื่อช่วยชีวิตผู้คนในครั้งนี้”

ท่ามกลางกระแสการแข่งขันกัน เพื่อจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 มาเพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับพลเมืองในประเทศของตนเอง ทวีปแอฟริกาดูเหมือนจะเป็นทวีปที่มีประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับพลเมืองไปแล้วน้อยที่สุดในขณะนี้ เช่น แอลจีเรีย อียิปต์ แอฟริกาใต้

ขณะที่ ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกระบุ “เราจะไม่สามารถยุติการแพร่ระบาดได้ เว้นแต่ว่าเราจะยุติมันทุกที่

วันนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่เราต่างตระหนักถึงการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”

ส่วน โดมินิก ราบบ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรเผย “ในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่ของโครงการ COVAX สหราชอาณาจักรจะร่วมประกันว่า วัคซีนต้านโควิด-19 กว่า 1 พันล้านโดสจะได้รับการทยอยส่งยังไป 92 ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังท่ามกลางสนามแข่งขันครั้งนี้ เราจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในอนาคต ถ้าเราช่วยกันป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาเหล่านี้”

ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมแล้วกว่า 112 ล้านราย (112,521,610 ราย) รักษาหายแล้ว 88,708,314 ราย หรือคิดเป็นราว 74% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 2,495,881 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 2.2%

ล่าสุด สหรัฐอเมริกาเองก็ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด (28,334,794 ราย) และเสียชีวิตมากสุดกว่า 5 แสนราย ตามมาด้วยอินเดีย (11,030,176 ราย) บราซิล (10,324,463 ราย) สหราชอาณาจักร (4,156,703 ราย) และรัสเซีย (4,153,735 ราย) พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 186 จาก 193 ประเทศทั่วโลก