ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) เปิดตัว ‘โครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ’ ดอกเบี้ย 2 ปีแรก 1.99% ต่อปี หวังหนุนบริษัทพัฒนาอสังหา สร้างที่อยู่อาศัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ (Project Loan For Carbon Reduction Building) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (Bio-Circular-Green Economy Model) หรือ BCG Model และส่งเสริมให้กลุ่มผู้ประกอบการบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) ลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
รวมทั้งเพื่อสนับสนุนรัฐบาลให้บรรลุตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) ภายในปี 2065 ตามเจตนารมณ์ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 หรือ COP26 ด้วย
ขณะที่ ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน ตามแผนยุทธศาสตร์ของธนาคาร โดยการนำแนวคิดการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงการเติบโตของผลกำไรควบคู่ไปกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) มากำหนดเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้ลูกค้ากลุ่ม Developer ลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในรูปแบบแฟลตให้เช่า อพาร์ตเมนต์ให้เช่า อาคารชุด และบ้านแนวราบ ด้วยการใช้วัสดุก่อสร้าง Carbon Footprint Reduction (CFR)
โดยโครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ (Project Loan For Carbon Reduction Building) มีกรอบวงเงินรวม 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2 ปีแรก = 1.99% ต่อปี (MLR-3.76% ต่อปี) ปีที่ 3-5 = 4.25% ต่อปี (MLR-1.50% ต่อปี) และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ = MLR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MLR ธอส. เท่ากับ 5.750% ต่อปี)
ภายใต้โครงการนี้ ธอส. ยังได้รับความร่วมมือจาก TGO ในการกำหนดคุณสมบัติ และข้อกำหนดทางเทคนิคของอาคารให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าที่จะเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ อาทิ เป็นอาคารที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย มาตรฐานอาคารเขียว TREES ของสถาบันอาคารเขียวไทย หรือมาตรฐานอาคารสีเขียวแห่งความยั่งยืน (LEED) หรือมาตรฐานบ้าน/อาคารเบอร์ 5 โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกรณีไม่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยใช้วัสดุก่อสร้าง หรือสุขภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองฉลากลดโลกร้อน, เครื่องหมาย Carbon Footprint และรับรองโดย TGO หรือเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอาคารที่มีการเลือกใช้วัสดุ ระบบเปลือกอาคาร กรอบอาคารผังบริเวณและภูมิทัศน์ ระบบพลังงานและบรรยากาศ การบริหารและจัดการน้ำ ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด เป็นต้น
ด้าน เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มีการจัดการก๊าซเรือนกระจกผ่านระบบการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองประเภท 1. Carbon Footprint ของผลิตภัณฑ์ 2. ฉลากลดโลกร้อน และ 3. Carbon Footprint ของผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อรองรับนโยบายการลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสนับสนุนการประเมินผลตัวชี้วัดระดับความสำเร็จในการดำเนินงานด้านประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-Efficiency) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับก๊าซเรือนกระจก ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของความร่วมมือที่กำหนดไว้ร่วมกัน และสนับสนุนองค์ความรู้และร่วมดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาลูกค้ากลุ่ม Developer โดยร่วมเป็นวิทยากรในกิจกรรมหรืองานต่างๆ ที่ ธอส. หรือ TGO จัดขึ้นต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ธนาคารออมสิน เปิดตัวเงินฝากดอกเบี้ยขั้นบันได จ่ายสูงสุด 4.5% และ 10% หวังส่งเสริมการออมระยะยาว
- เปิดสถิติ 9 เดือนแรกปี 65 ธนาคาร ไหนครองแชมป์แอปล่มมากที่สุด
- ไม่ตกขบวน! ไทยพาณิชย์ปรับขึ้นดอกเบี้ย MLR และ MOR 0.25% พร้อมขยับดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุด 0.50%