×

เยอรมนีเผย อเล็กเซ นาวาลนี ถูกสารพิษ ‘โนวิช็อก’ เรียกร้องรัสเซียให้คำตอบ

03.09.2020
  • LOADING...

เยอรมนีเผยผลการตรวจสอบทางพิษวิทยาว่า อเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านของรัสเซียถูกโจมตีจากสารพิษทำลายประสาท ‘โนวิช็อก’ แบบเดียวกับที่เคยใช้ในการโจมตี เซอร์เก สกริปาล อดีตสายลับของรัสเซีย และลูกสาวของเขาในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2018

 

อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีระบุว่า นาวาลนีตกเป็นเหยื่อของการพยายามฆ่า และโลกกำลังรอคำตอบจากรัสเซียอยู่ 

 

“ตอนนี้มีคำถามร้ายแรงที่มีเพียงรัฐบาลรัสเซียเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ และต้องตอบด้วย” แมร์เคิล กล่าว “บางคนพยายามปิดปากนาวาลนี ในนามของรัฐบาลเยอรมนี ฉันขอประณามอย่างรุนแรง”

 

นาวาลนีมีอาการป่วยก่อนหมดสติระหว่างเดินทางจากเมืองทอมส์กไปกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งทีมงานคาดว่าเขาถูกลอบวางยาในน้ำชาที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในสนามบิน ต่อมาทางการรัสเซียอนุญาตให้ส่งตัวนาวาลนีไปรักษาตัวที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี แต่อาการของเขายังอยู่ในขั้นโคม่า

 

ด้านทีมงานของนาวาลนีระบุว่า การวางยาพิษครั้งนี้เป็นคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเครมลินได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว 

 

โดย มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียระบุว่า ข้อกล่าวหาเรื่องใช้สารพิษโนวิช็อกนั้นปราศจากหลักฐานสนับสนุน พร้อมขอให้แจกแจงสูตรยาพิษ หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารทำลายประสาทดังกล่าว

 

สำหรับโนวิช็อกนั้นเป็นอาวุธเคมียุคสหภาพโซเวียตที่เคยถูกใช้โจมตี เซอร์เก สกริปาล อดีตสายลับของรัสเซีย และลูกสาวของเขาในสหราชอาณาจักรเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นข่าวที่ทั่วโลกให้ความสนใจในตอนนั้น โดยสองพ่อลูกรอดชีวิตจากการโจมตีครั้งนั้น แต่มีหญิงชาวอังกฤษคนหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกสารพิษดังกล่าวในเวลาต่อมา โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวหาว่า หน่วยข่าวกรองของกองทัพรัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีอดีตสายลับครั้งนั้น

 

ปัจจุบันนาวาลนีอายุ 44 ปี โดยที่ผ่านมาเขาเป็นคู่ปรับทางการเมืองคนสำคัญของปูติน และเป็นหัวหอกในการวิจารณ์นโยบายและการทำงานของปูตินมาตลอด โดยในเดือนมิถุนายน เขาคัดค้านการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้ปูตินอยู่ในอำนาจได้ต่ออีก 2 สมัย หลังดำรงตำแหน่งครบ 4 สมัย ซึ่งนาวาลนีเปรียบเป็นการรัฐประหารและละเมิดรัฐธรรมนูญ

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising