หนึ่งในความหวังเศรษฐกิจและเป็นเครื่องยนต์สำคัญของไทยในเวลานี้คงต้องยกให้ภาคการท่องเที่ยว หลังจากรัฐบาลขยายวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวอินเดียและไต้หวันถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 (6 เดือน) นี่อาจเป็นโอกาสของไทยที่จะกระตุ้นเม็ดเงินมากขึ้น
หลังจากที่ Airbnb ออกมาระบุว่า ปีนี้ยอดการจองของชาวอินเดียบน Airbnb ไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% เมื่อเทียบกับในช่วงปีที่ผ่านมา และได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเทศกาลโฮลี (Holi Festival) และเทศกาลอีสเตอร์ (Easter) ซึ่งมีชาวอินเดียค้นหาที่พักในประเทศไทยบนแพลตฟอร์ม Airbnb เพิ่มขึ้นมากถึง 200%
โดยยอดของนักท่องเที่ยวอินเดียถือเป็นประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 5 และการใช้จ่ายในไทยจะไม่ต่ำกว่า 41,000 บาทต่อการมาท่องเที่ยว 1 ครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เราต่างต้องพึ่งพานักท่องเที่ยว! อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ช่วงชิง Visa Free เปิดรับกลุ่มประเทศที่มีกำลังจ่ายสูง เที่ยวนาน เพื่อเร่งบู๊ตเศรษฐกิจ
- ไทยเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว ‘อินเดีย-ไต้หวัน’ เป็นเวลา 6 เดือน เริ่ม 10 พ.ย. นี้
น่าสนใจว่า ขณะนี้เทรนด์การท่องเที่ยวไทยของชาวอินเดียส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ (New Gen) โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่พบว่ามีการจองที่พักบน Airbnb มากถึง 80% ของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียทั้งหมด โดยมี 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยมบน Airbnb ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่ และสมุย ซึ่งความชื่นชอบนั้น ชาวอินเดียมักจะเลือกพื้นที่ ได้แก่ สระว่ายน้ำ เขตร้อน ใกล้ชายหาด ใกล้อุทยานแห่งชาติ และเมืองที่มีชื่อเสียง
โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักเดินทางแบบ Duo และ Solo ในขณะที่กลุ่มเล็ก (3-5 คน) และกลุ่มขนาดกลาง (5 คนขึ้นไป) มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุด โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 68% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันเทรนด์ความสนใจและไลฟ์สไตล์การเดินทางของชาวอินเดียได้รับแรงผลักดันจากการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรของอินเดีย และคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มด้านการเดินทางมากขึ้น ส่งผลให้ชาวอินเดียมีความชื่นชอบและสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอินเดียมีประชากรกลุ่ม Gen Z และ Gen Y มากที่สุดในโลก หากไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมจึงเป็นโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าปีนี้นักท่องเที่ยวอินเดียจะมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.9-2.1 ล้านคน
แน่นอนว่าปัจจัยหลักๆ เนื่องจากอินเดียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีประชากรมากที่สุดในโลกถึง 1.4 พันล้านคน และกว่า 51% เป็นหนุ่มสาว Gen Z ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ขณะที่ชนชั้นกลางจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น คาดว่าปี 2030 จะคิดเป็น 715 ล้านคน ดังนั้นอัตราการเติบโตของประชากรหนุ่มสาวสะท้อนถึงฐานแรงงานคนรุ่นใหม่ และฐานผู้บริโภคที่มีอำนาจซื้อสูงขนาดใหญ่ของโลก จึงเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
ส่องอิทธิพลการเดินทางของวัยรุ่น Gen Z
ปัจจุบันเทรนด์และความน่าสนใจของนักเดินทาง Gen Z กำลังเปลี่ยนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและรูปแบบการเดินทางทั่วโลกในหลายๆ ด้าน ซึ่งชาว Gen Z มักจะไม่สนใจสถานที่ท่องเที่ยวแบบเดิมๆ แต่หันมาใส่ใจกับประสบการณ์ที่แท้จริง เช่น ประสบการณ์จากการมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง
โดยแนวโน้มนี้เห็นได้ชัดเจนจากการเลือกจุดหมายปลายทางที่มีกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในยุโรป การเป็นอาสาสมัครในชุมชนอเมริกาใต้ หรือค้นหารีสอร์ตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในหมู่เกาะแปซิฟิก
นอกจากนี้ การแสดงตัวตนผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังช่วยเพิ่มอิทธิพลต่อเทรนด์การท่องเที่ยวอีกด้วย หนุ่มสาว Gen Z มักจะแชร์เรื่องราวการเดินทางผ่าน Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น และสร้างกระแสไวรัลจนสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เสมอ
ตัวอย่างเช่น ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของไอซ์แลนด์ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากรูปภาพและวิดีโอน่าทึ่งที่แชร์โดยนักเดินทางอายุน้อย เช่นเดียวกับชายหาดที่ซ่อนอยู่ของโปรตุเกส และตลาดที่มีชีวิตชีวาของโมร็อกโก ซึ่งได้รับความนิยมจากนักสำรวจชาว Gen Z
ดังนั้นการท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ นอกจากกำลังบ่งบอกถึงพลังที่นอกเหนือการกำหนดนิยามใหม่ของแผนที่การท่องเที่ยวแล้ว พื้นที่นั้นๆ ยังสามารถกระตุ้นเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวพื้นที่ใหม่ๆ มากขึ้น
อ้างอิง:
- https://news.airbnb.com/th/gen-z-and-millennial-indian-guests-drive-surge-in-travel-to-thailand/
- https://www.travelandtourworld.com/news/article/did-you-know-that-with-new-updates-this-country-is-a-great-choice-for-genz-travel/
- https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/indian-tourist-and-thailands-tourism-opportunity