วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สพฐ.ตร.) พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.) ร่วมตรวจสอบยาชนิดต่างๆ เกี่ยวกับทางคดีที่ส่งมาตรวจที่กลุ่มงานตรวจยาเสพติด โดยยาส่วนนี้เป็นของกลางที่ตรวจสอบพบว่ามีสารเสพติดที่สามารถออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวว่า คนร้ายจะใช้ยาเหล่านี้กับผู้เสียหายเพื่อหวังก่ออาชญากรรมต่อทรัพย์สิน หรือล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งยากลุ่มนี้รู้จักในชื่อ ‘ยาเสียสาว’ ฤทธิ์ของยาทำให้เกิดอาการมึนงง ง่วงซึม ไม่มีสติ ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มหรือสลบไปได้ และออกฤทธิ์ได้รวดเร็ว ไม่เกิน 30 นาทีหลังยาดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย
นอกจากนี้ยังพบว่าสามารถละลายได้ดี หากมีการแอบใส่ในเครื่องดื่มต่างๆ ผู้ดื่มจะไม่รู้ตัว และหากใส่ไปในเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มการออกฤทธิ์
พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ผลข้างเคียงของยาดังกล่าวทำให้เกิดอาการสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะ จึงอาจทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ฉะนั้นขอเตือนประชาชนให้ป้องกันตัวเอง ไม่รับเครื่องดื่มหรืออาหารจากคนแปลกหน้า โดยเฉพาะหากอยู่ในสถานที่ไม่น่าไว้วางใจ เช่น ผับ ร้านอาหาร และหากพบว่ามีอาการคลื่นไส้อาเจียน มึนงง เดินเซ หายใจลำบาก มีอาการคล้ายเมาสุรา ให้รีบขอความช่วยเหลือทันที
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ระบุว่า แม้สารเหล่านี้ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่ในปัจจุบันพบว่ามีการลักลอบนำมาขายผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะทางอินเทอร์เน็ต
สำหรับสถิติของกลางกลุ่มยาดังกล่าวที่ส่งมาตรวจพิสูจน์ที่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจพบว่า ปี 2564 มี 320 คดี, ปี 2565 มี 319 คดี, ปี 2566 มี 400 คดี และปี 2567 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีมากถึง 54 คดี มีแนวโน้มการใช้วัตถุออกฤทธิ์ในการกระทำความผิดเพิ่มมากขึ้น