×

จบสิ้นแล้วทุกสิ่ง ตกงานตอนอายุ 30 กว่า จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไรต่อ?

20.09.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • คนมีประสบการณ์มามาก สะสมชั่วโมงบินมามากกว่า น่าจะมีมุมมองที่น่าสนใจแบบที่คนที่ชั่วโมงบินน้อยกว่ายังไม่ทันมี บางอย่างต้องผ่านโลกมาระดับหนึ่งจึงจะตกผลึกทางความคิดได้ ความเก๋าเกมนี่แหละครับที่เป็นประโยชน์ในการทำงาน
  • จะเด็กหรือผู้ใหญ่ ในเรื่องการทำงาน เรามีสิ่งที่ต้องทำคล้ายๆ กันคือเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และคอยพัฒนาตัวเองตลอด อายุไม่ได้เป็นปัญหา อย่างไรก็ต้องเรียนรู้ พัฒนาตัวเองไม่ต่างกันอยู่ดี

Q: ผมกำลังจะตกงานตอนอายุ 37 ปี ด้วยอายุเท่านี้แล้ว ผมรู้สึกว่าการหางานใหม่มันยากลำบากมาก ผมรู้สึกท้อแท้จริงๆ ครับ ครอบครัวก็ต้องดูแล ไม่รู้จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไรดี?

 

A: ทุกการเปลี่ยนแปลงมีเรื่องดีเสมอครับ ผมเชื่อแบบนั้น

     ผมพอจะเข้าใจนะครับว่าการเปลี่ยนงานตอนอายุมากขึ้นอาจทำให้เรารู้สึกหวั่นไหว กลัวว่าเราจะเป็นไม่ที่ต้องการของตลาดแรงงานหรือเปล่า เพราะหลายบริษัทมีวิธีคิดว่า ‘จ้างคนอายุน้อยกว่า อยู่ได้นานกว่า แถมค่าจ้างถูกกว่า เอาคนแก่กว่ามาจะมีปัญหากับการปรับตัวหรือเปล่า’

     คนอายุ 30 กว่าขึ้นไปจะเปลี่ยนงานทีเลยดูเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะก้าวออกไปทางไหนแต่ละทีต้องคิดแล้วคิดอีกกว่าตอนเด็กๆ

     ตอนผมอายุ 30 นิดๆ นี่แหละครับ ผมเคยได้รับการทาบทามให้ไปทำงานเป็นหัวหน้าแผนกที่บริษัทแห่งหนึ่ง ดูจากตำแหน่งก็น่าสนใจดี แต่ยังไม่ทันได้คุยกันหรอกครับ พอดีปลายสายถามผมมาก่อนว่าผมอายุเท่าไร พอผมบอกว่าผมอายุ 30 แล้ว ปลายสายตอบผมว่า

     “เกรงว่าคุณจะอายุมากกว่าที่เราต้องการสักหน่อย 30 กว่าแล้วน่าจะแก่ไป เราอยากได้คนอายุสัก 27-28” ผมก็หัวเราะ นึกในใจว่า ‘อ้าว! ก่อนหน้านี้ชมกูใหญ่เลยนะมึงว่าโปรไฟล์กูดี แหม…’ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ฮ่าๆ

     ผมถามเขาไปว่า “ทำไมต้องอายุ 27-28” ครับ เขาตอบว่า

     “เพราะกำลังเป็นคนรุ่นใหม่ มีไฟในการทำงาน และความคิดนอกกรอบ”

     ผมเลยตอบกลับไปว่า “น่าสนใจดีครับ ดูเป็นองค์กรที่มองหาความคิดนอกกรอบ แต่ก็มีกรอบสี่เหลี่ยมว่าต้องอายุเท่านั้นเท่านี้ถึงจะมีความคิดนอกกรอบ ถ้าเอา ‘กรอบ’ นี้ไปคุยกับสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ในตอนนี้ แม้แต่คนอย่างเขาก็คงไม่ได้ทำงานกับองค์กรนี้ เพราะว่าเขาจะถูกตัดสินว่าไม่มีความคิดนอกกรอบ ไม่มีไฟ เพียงเพราะว่าเขาอายุมากกว่า 27-28”

     ก็ลืมถามเหมือนกันว่าคนถามอายุเท่าไร แต่เรียกเราว่า ‘น้อง’ แล้วยังบอกว่าเราแก่ไป อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าขนาด 30 อย่างผมยังเรียกว่า ‘แก่’ ไป คุณพี่คนที่ถามผมจะปูนไหน

     แอบดีใจนิดหนึ่งว่าหน้าเราคงเด็กจนเขานึกว่าเราอายุ 27-28 แสดงว่าดูแลตัวเองดีใช้ได้ พอจะหลอกคนได้อยู่ ฮ่าๆ เอาเป็นว่าขนาดผมอายุ 30 ยังมีคนบอกว่าผมแก่เกินไปเลยครับพี่! เพราะฉะนั้น อย่าได้แคร์

     ผมกลับมองพี่ว่า พี่อายุ 37 ปี คงมีประสบการณ์มามาก สะสมชั่วโมงบินมามากกว่า พี่น่าจะมีมุมมองที่น่าสนใจแบบที่คนที่ชั่วโมงบินน้อยกว่ายังไม่ทันมี บางอย่างต้องผ่านโลกมาระดับหนึ่งนะครับ จึงจะตกผลึกทางความคิดได้ ความเก๋าเกมนี่แหละครับที่เป็นประโยชน์ในการทำงาน

ทั้งหมดนั้น เพราะเขาทำสิ่งเดียวครับ

คือทำสิ่งที่เขารัก โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองจะอายุเท่าไร

     ผมเชื่อว่า ถ้าเรามีความสามารถ คนก็จะเคารพในความสามารถของเรา ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไรก็ตาม

     พี่ลองดูสิครับ มาดอนน่าอายุจะ 60 แล้วยังมีทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกขายหมดเกลี้ยง คนบางคนอาจจะรู้สึกว่าเธอแก่ แต่พอผมได้ไปดูคอนเสิร์ตของเธอ ผมยังรู้สึกเลยว่า โห…ผู้หญิงคนนี้โคตรแน่เลย และความเก๋าเกมบนเวทีนี่มันไม่ใช่ว่าอายุน้อยๆ จึงจะมีนะครับ มันคือการสั่งสมประสบการณ์ล้วนๆ

     ในวงการนางแบบ นางแบบส่วนใหญ่จะอายุน้อยๆ กัน นี่มันคือวงการที่ความหนุ่มสาวของเราหมดอายุได้เร็วมาก แต่ดูสิครับ พี่ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม หรือ พี่ซินดี้-สิรินยา เบอร์บริดจ์ ยังคงได้เดินฟินาเล่อยู่ นั่นพี่ๆ เขา 40 กว่ากันแล้วนะครับ เจ๋งไหมล่ะ เจ. เค. โรว์ลิ่ง เขียนหนังสือเรื่อง Harry Potter ตอนอายุ 40 กว่านะครับ แล้วดูสิครับ ตอนนี้เวทมนตร์ของนางขจรขจายไปขนาดไหน

     ทั้งหมดนั้น เพราะเขาทำสิ่งเดียวครับ

     คือทำสิ่งที่เขารัก โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองจะอายุเท่าไร

     เอาเข้าจริง จะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ในเรื่องการทำงาน เรามีสิ่งที่ต้องทำคล้ายๆ กันครับ คือเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และคอยพัฒนาตัวเองตลอด เห็นแบบนี้แล้ว รู้สึกไหมครับว่าอายุไม่ได้เป็นปัญหา อย่างไรก็ต้องเรียนรู้ พัฒนาตัวเองไม่ต่างกันอยู่ดี

     ผมรู้ว่าพี่กังวล ผมเป็นกำลังใจให้ แต่อยากให้พี่มองเห็นคุณค่าในตัวเอง พี่อายุ 37 มีประสบการณ์การทำงานมามากที่เป็นประโยชน์ พี่ไม่ธรรมดาเลยนะครับ

     หาองค์กรที่เห็นคุณค่าของความสามารถพี่ ที่ไหนตัดสินพี่เพียงเพราะอายุก็ไม่ต้องหวั่นไหวนะครับ คือเราก็ได้รู้ว่า อ๋อ องค์กรนี้เขาอาจจะดูคนแบบนี้นี่เอง ซึ่งเราก็คงไม่อยากทำงานกับองค์กรที่ตัดสินคนด้วยความตื้นเขินหรอกใช่ไหมละครับ ทำให้เขาเห็นครับว่าประสบการณ์ต่างๆ ที่พี่มีเป็นประโยชน์ต่อองค์กรแน่นอน และพี่ไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่ปิดตัวเอง แต่สามารถทำงานร่วมกับคนได้ พี่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลก แต่พี่เปิดใจที่จะเรียนรู้มัน

     หรือถ้าคิดว่าถึงเวลามาทำธุรกิจของตัวเอง ผมก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีนะครับ พี่มีประสบการณ์มาขนาดนี้แล้ว อย่าคิดว่าอายุเท่านั้นเท่านี้แล้วจะสายเกินไปหรือเปล่า ผมคิดว่าประสบการณ์ต่างๆ ของพี่นี่แหละต้นทุนชั้นดีในการสร้างอนาคตของตัวเองเลยครับ ผมเชื่อว่าถ้าพี่ไม่ Tough พอ พี่คงไม่รอดในโลกการทำงานออฟฟิศมาถึงขนาดนี้ ใช้สิ่งนี้แหละครับมาเป็นต้นทุนในการเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง

     ที่สำคัญ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะครับ ผมมีเคล็ดลับอย่างหนึ่งเอาไว้เรียกกำลังใจตัวเอง คือเวลาที่ผมท้อ เวลาที่ผมไม่มั่นใจว่าจะผ่านอุปสรรคที่เจออยู่ไปได้อย่างไร หรืออีกนิดหนึ่งจะถึงจุดที่ถอดใจแล้ว ผมจะมองไปที่คนที่ศรัทธาผม และผมก็มีความรู้สึกในใจว่า “เออว่ะ เรามองตัวเองห่วยขนาดนี้ เขายังมั่นใจว่าเราจะทำได้ เราต้องมีอะไรดีอยู่สินะ เราต้องไม่ได้ไร้ค่าอย่างที่ตัวเราคิด เราต้องมีดีมากพอ เพราะฉะนั้น จะยอมแพ้ตอนนี้ได้ไง เราต้องไม่ยอมให้กำลังใจที่เขามีให้เราสูญเปล่า เราต้องทำได้สิวะ”

     ใช้โอกาสนี้ทบทวนถึงการทำงานที่ผ่านมาครับว่าเราอยากทำอะไร และอยากพัฒนาอะไรในตัวเรา การออกจากงานครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนให้พี่เข้มแข็งยิ่งกว่าเดิมก็ได้

     ทุกการเปลี่ยนแปลงมีเรื่องดีเสมอครับ  

     ผมเอาใจช่วยพี่ครับ

 

     * ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X