คณะกรรมาธิการว่าด้วยการค้าแห่งสหพันธรัฐของสหรัฐอเมริกา (FTC) ออกคำสั่งให้ 7-Eleven Inc. เจ้าของกิจการร้านสะดวกซื้อชื่อดังในสหรัฐฯ ต้องขายธุรกิจร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ซึ่งได้มาจากการเข้าซื้อกิจการ ‘สปีดเวย์’ เครือข่ายร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐฯ ของบริษัท ‘มาราธอน ปิโตรเลียม’ (Marathon Petroleum-MPC) เป็นจำนวน 293 สาขา เพื่อป้องกันการผูกขาดการค้า
คำสั่งดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย FTC ในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลัง FTC ได้ส่งสัญญาณแสดงความกังวลว่าดีลการเข้าซื้อกิจการสปีดเวย์ของ 7-Eleven อาจก่อให้เกิดการผูกขาดทางการค้า โดย รีเบคกา เคลลี สลอเทอร์ รักษาการประธานของ FTC ยังระบุด้วยว่า แม้จะมีคำสั่งให้ 7-Eleven ขายสาขาบางส่วนออกไปแล้ว หน่วยงานของเธอจะยังเดินหน้าตรวจสอบความโปร่งใสของการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ต่อไป
ในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา Seven & i Holdings Co., Ltd. บริษัทแม่ของ 7-Eleven Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการร้านสะดวกซื้อสปีดเวย์จากกลุ่มมาราธอน ปิโตรเลียม ด้วยมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งดีลดังกล่าวทำให้ 7-Eleven ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดธุรกิจร้านสะดวกซื้อในสหรัฐฯ และแคนาดา ด้วยจำนวนสาขารวมเกือบ 14,000 สาขา
ภายใต้คำสั่งของ FTC 7-Eleven จะต้องขายกิจการร้านสะดวกซื้อจำนวน 293 สาขาให้กับคู่แข่งเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า ในจำนวนนี้ 124 สาขาจะถูกขายให้กับ Anabi Oil, 106 สาขาขายให้กับ CrossAmerica Partners LP และ 63 สาขา ขายให้ Jacksons Food Stores
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
