รัฐสภาฝรั่งเศสลงมติไม่ไว้วางใจ มิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ส่งพ้นให้เขาต้องพ้นจากตำแหน่ง หลัง เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แต่งตั้งบาร์นิเยร์ให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
การลงมติดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่บาร์นิเยร์ใช้อำนาจพิเศษตามรัฐธรรมนูญผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ โดยไม่มีการลงเสียงแสดงความเห็นขั้นสุดท้ายในรัฐสภา ทำให้ขาดการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวเกี่ยวพันกับมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อจัดการกับปัญหาขาดดุลที่เพิ่มสูงขึ้นของฝรั่งเศส
ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลฝรั่งเศส ‘ล้มเหลว’ ในการลงประชามติไม่ไว้วางใจ นับตั้งแต่ปี 1962
มติดังกล่าวทำให้บาร์นิเยร์ต้องยื่นหนังสือลาออก อย่างไรก็ตาม เขามีแนวโน้มที่จะยังคงรักษาการนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสต่อไปอีกสักระยะ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มาครงพิจารณาเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกฯ คนใหม่ของฝรั่งเศส
มาครงที่เพิ่งจะกลับจากการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียระบุว่า เขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่งไม่ว่าผลการลงมติจะเป็นอย่างไร โดยมาครงไม่ได้รับกระทบโดยตรงจากการลงมติไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้น เนื่องจากฝรั่งเศสลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีแยกจากรัฐบาล
ด้าน มารีน เลอ แปน ผู้นำฝ่ายขวาจัดของฝรั่งเศสชี้ว่า ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขับบาร์นิเยร์ให้พ้นจากตำแหน่ง เพราะร่างงบประมาณดังกล่าวจะเป็นพิษต่อฝรั่งเศส และถ้าพวกเราไม่เคารพเสียงของผู้มีสิทธิลงคะแนน รวมถึงแรงขับทางการเมืองและการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง มันจะยิ่งทำให้แรงกดดันที่มีต่อประธานาธิบดีมีมากขึ้นๆ อย่างเห็นได้ชัด
หลายฝ่ายมุ่งหวังให้มาครงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะสุญญากาศทางการเมืองที่เว้นว่างผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในรัฐบาลฝรั่งเศส
ภาพ: Sarah Meyssonnier / Reuters
อ้างอิง: