จากที่เคยรุ่งเรืองมีถึง 22 สาขาทั่วแดนซามูไร หากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25 กันยายน) Forever 21 ฟาสต์แฟชั่นชื่อดังสัญชาติอเมริกันได้ออกมาแถลงว่า เตรียมถอนตัวออกจากญี่ปุ่นอย่างถาวร โดยจะปิดหน้าร้านทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศภายในปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ รวมไปถึงร้านออนไลน์ด้วย ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงของร้านเสื้อผ้าออนไลน์
Forever 21 ไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจนว่าเหตุใดถึงถอนตัวออกจากตลาดกะทันหันเช่นนี้ แต่ที่แน่ๆ ข่าวนี้จะทำให้มีพนักงานตกงานถึง 700 คน โดยนี่นับเป็นอีกข่าวที่ซ้ำเติมวิกฤตของฟาสต์แฟชั่นรายนี้ หลังจากกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสื่อสหรัฐฯ หลายแห่งรายงานว่า บริษัทซึ่งมีที่อยู่ในลอสแอนเจลิสกำลังพิจารณายื่นเรื่องการป้องกันการล้มละลายในบทที่ 11 เนื่องจากการเติบโตของร้านออนไลน์ ได้เข้ามาทำลายความสามารถในการดึงดูดลูกค้า และกระทบต่อสุขภาพทางการเงินของบริษัท
การถอดตัวออกจากญี่ปุ่นนับเป็นประเทศล่าสุดในเอเชียที่ฟาสต์แฟชั่นรายนี้ได้ถอนตัวออกไป ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ประชาชาติธุรกิจได้รายงานว่า Forever 21 ได้ปิดสาขาสุดท้ายในเซ็นทรัลเวิลด์ไปเมื่อกลางเดือนมิถุนายน หลังจากเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยได้ 10 ปีพอดิบพอดี
ขณะเดียวกันสำนักข่าว Nikkei Asian Review ได้ออกมารายงานว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน Forever 21 ก็ออกมาปิดสาขาสุดท้ายในฮ่องกง ทั้งๆ ที่เหลือสัญญาเช่าอีก 4 ปี ตามรอยร้านเรือธงซึ่งตั้งอยู่ในย่าน Causeway Bay ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งสำคัญไปในปี 2017
นอกจากนั้นในเดือนมีนาคม Forever 21 ก็เพิ่งปิดร้านในไต้หวัน โดยได้อธิบายกับพนักงานในบันทึกว่า ‘เป็นปีแห่งการขาดทุน’ ซึ่งต่อมาได้ปิดเว็บไซต์ในจีนแผ่นดินใหญ่ในเดือนถัดไป ก่อนจะค่อยๆ ทยอยปิดหน้าร้าน
สำหรับในญี่ปุ่นนั้น Forever 21 ได้เข้ามาเปิดสาขาแรกที่ย่านฮาราจูกุของโตเกียวในเดือนเมษายน 2009 และต่อมาขยายไปยังเมืองอื่นๆ ซึ่งได้ตีคู่มากับ H&M ฟาสต์แฟชั่นสวีเดนซึ่งเข้ามาบุกในปี 2008 ในการเจาะวัยรุ่นญี่ปุ่น แต่สุดท้ายสาขาแรกก็ถูกปิดตัวลงในปี 2017 ก่อนจะเหลือที่โยโกฮาม่า โอซาก้า และเมืองใหญ่อื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเตรียมปิดตัวถาวรในไม่กี่วันต่อจากนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: