วันนี้ (5 สิงหาคม) เมื่อเวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 1 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีการประชุมสภากรรมการประจำเดือนสิงหาคม 2563 ภายในที่ประชุมมี พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการฯ, ยงยศ พึ่งธรรม รองเลขาธิการฝ่ายกฎหมาย
โดยภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ดร.สมยศ กล่าวว่า “วันนี้เป็นการประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประจำเดือนสิงหาคม ระเบียบวาระเรื่องสำคัญในวันนี้คือ สภากรรมการได้อนุมัติให้บริษัท ไทยลีก จำกัด จัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 โดยสามารถปรับเปลี่ยนการจัดการแข่งขันให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งทางบริษัทไทยลีกจะดำเนินการจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามแนวความคิดของสโมสรสมาชิก หลังจากที่ได้มีการประชุมและลงมติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เรื่องที่ 2 ก็คือ สภากรรมการได้อนุมัติให้สมาคมฯ ออกค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจหาโควิด-19 นักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้องให้กับสโมสรไทยลีก 1-3 ที่ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน เบื้องต้นอาจจะสโมสรละ 50 คน โดยรูปแบบหรือวิธีการตรวจ บริษัทไทยลีกและสมาคมจะหารือว่าจะทำอย่างไรที่สโมสรสมาชิกจะได้รับความสะดวกมากที่สุด เช่น ตรวจที่ศูนย์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือสามารถไปที่ทำการสโมสร ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้ง
“ส่วนเรื่องที่ 3 ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งกับฟุตบอลไทย จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่แพร่ระบาดและส่งผลกระทบไปทุกวงการทั่วโลก ฟุตบอลไทยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทั้งสมาคมฯ และสโมสร ต่างได้รับผลกระทบ สปอนเซอร์ ผู้สนับสนุน หายไปกว่า 80% ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะประเทศไทย แต่เกิดขึ้นทั่วโลก
“สมาคมฯ มีความตั้งใจจริงที่จะดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพทุกรายการให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นไทยลีก 1-3 รวมถึงฟุตบอลถ้วย เอฟเอคัพ และลีกคัพ แต่ด้วยความจำเป็นที่สปอนเซอร์หรือผู้ได้รับสิทธิ์ก็ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกันถ้วนหน้า ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น บริษัททรูวิชั่นส์จะรับถ่ายทอดสดฟุตบอลโตโยต้าไทยลีกไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคมนี้เท่านั้น ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสินก็ได้ปรับลดการสนับสนุนการแข่งขันในระดับไทยลีก 3 บริษัทโตโยต้าก็ได้ปรับลดเงินสนับสนุนและยกเลิกการสนับสนุนจัดการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ
“นอกจากนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีหน้าที่หลักคือต้องสนับสนุนภารกิจของทีมชาติไทยและรักษาไว้ซึ่งโครงสร้างของฟุตบอลของชาติ ต้องให้มีการพัฒนาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาทีมชาติไทยชุดต่างๆ ทั้งฟุตบอลชาย-หญิง ฟุตซอลชาย-หญิง และฟุตบอลชายหาด นี่คือภารกิจหลักที่จะต้องดำเนินการหรือจะต้องรับผิดชอบ ที่ผ่านมาบุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้บริหารสมาคมฯ พร้อมใจลดค่าตอบแทนลง 50% รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน ทั้งผู้ตัดสิน ผู้ประเมินผู้ตัดสิน ผู้ควบคุมการแข่งขัน และทุกฝ่าย เพื่อที่สมาคมจะได้เดินหน้าต่อไปได้ จนกว่าสมาคมจะมีเงินเข้ามาสนับสนุนและสถานการณ์คลี่คลายกว่านี้
“เพื่อให้วงการฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไปได้ สมาคมต้องหาเงินเข้ามาเป็นทุนหมุนเวียนในการจัดให้มีการแข่งขันเกิดขึ้นให้ได้ก่อนจะไปขอรับการสนับสนุนหรือเก็บค่าลิขสิทธิ์เมื่อการแข่งขันผ่านไประยะหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ยังไม่สามารถหาเงินมาได้ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ สภากรรมการอนุมัติให้หาแหล่งเงินทุนทั้งในและต่างประเทศเพื่อกู้เงินระยะสั้น 6 เดือน – 1 ปี แบบปลอดดอกเบี้ย เพื่อนำเงินเหล่านั้นมาหมุนเวียนหรือสร้างสภาพคล่องให้วงการกีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพไทยลีก 1-3 และเตรียมพร้อมสำหรับเกมระดับนานาชาติที่อาจจะเกิดขึ้น แม้ว่าตอนนี้จะไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นได้ตามปฏิทินหรือไม่ แต่ทีมชาติไทยก็ต้องพร้อมในทุกสถานการณ์ ซึ่งสมาคมฯ ต้องมีเงินทุนที่เพียงพอในการเตรียมความพร้อมและเดินทางไปแข่งขัน คือสิ่งที่ได้ประชุมในวันนี้
“เราหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่เห็นความสำคัญของวงการฟุตบอลจะได้มีส่วนในการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนตัวผมเองก็จะไปเจรจากับหลายๆ ท่าน ผมเชื่อว่าด้วยความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานฟีฟ่าและประธานเอเอฟซี ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถหาเงินมาเพื่อจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพได้ ซึ่งในไทยลีก 1 มีค่าใช้จ่ายต่อนัดหลายแสนบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าผลิตและส่งสัญญาณถ่ายทอดสด, ค่าเช่าสัญญาณ, ค่ากรรมการผู้ตัดสินและผู้ที่เกี่ยวข้อง, ค่าสิทธิประโยชน์ และพื้นที่โฆษณาเพื่อตอบแทนผู้สนับสนุนตามสัญญา ถ้าต้องแข่งกันอีกมากกว่า 100 นัด ก็คิดว่าไม่น้อยเลยทีเดียว เงินที่ใช้หมุนเวียนตรงนี้เราต้องพยายามหามาให้ได้”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล