แนะสุดยอดอาหารที่ช่วยให้อาการของสิวดีขึ้น

การรักษาความสะอาดของผิว และการทายาแต้มสิว เป็นวิธีในการควบคุมและรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพหากทำอย่างถูกวิธีและให้เวลากับมันมากพอ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการเลือกกินอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acids) สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) สังกะสี (Zinc) วิตามินเอ (Vitamin A) และกากใยอาหาร (Dietary Fiber) สามารถช่วยบรรเทาอาการของสิวให้ดีขึ้นได้อีกทางหนึ่ง THE STANDARD จะพาทุกคนไปรู้จักกับอาหารประเภทต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้างเสริมผิวพรรณที่ดี ยังเป็นการต่อต้านสิวจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งมีความปลอดภัยและได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย

แพทย์หญิงภาวิณี ฤกษ์นิมิตร จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเผยแพร่ความรู้เรื่อง ‘สิว ปัญหาหนักใจของวัยทีน’ เอาไว้ และมีตอนหนึ่งที่เขียนถึงเรื่องอาหารกับสิวว่า ความเกี่ยวพันระหว่างการเกิดสิวและอาหารนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่ในปัจจุบันพบว่า อาหารที่มีดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) สูงๆ เช่น พวกขนมหวาน ไอศกรีม ขนมปังขาว และผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เช่นเดียวกัน อาหารที่เชื่อกันว่าช่วยให้อาการของสิวดีขึ้น ก็จำพวกอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acids) สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) สังกะสี (Zinc) วิตามินเอ (Vitamin A) และกากใยอาหาร (Dietary Fiber)

จากข้อมูลดังกล่าว เราจึงนำมาเป็นลิสต์รายการอาหารที่มีประโยชน์โดยตรงต่อผิวพรรณ ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ปัญหาฝ้า กระ ผิวพรรณแห้งกร้าน รวมถึงปัญหาสิวด้วย นอกจากนี้การทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าจะช่วยปรับสมดุลผิวจากภายในสู่ภายนอกได้ด้วย ซึ่งสารอาหารที่จะช่วยให้อาการสิวดีขึ้นมีดังนี้

วิตามินเอ (Vitamin A)

พบในผักสีเขียวและสีเหลือง หลายคนทราบดีว่าในผักใบเขียวมีวิตามินเอและมีทั้งคลอโรฟิลล์จำนวนมาก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อผิวพรรณในเรื่องการต้านสิว ลดริ้วรอย และลดการอักเสบของผิว ในมื้ออาหารแต่ละวัน จึงควรเพิ่มเมนูผักให้มากขึ้น แนะนำว่าในตอนเช้า ลองลุกขึ้นมาทำน้ำผักปั่นรับประทานหลังตื่นนอน จะดีมากๆ นอกจากจะช่วยปลุกผิวให้ตื่นแล้ว ประโยชน์ในน้ำผักยังบำรุงผิวให้แข็งแรงและดูเปล่งปลั่งอีกด้วย

กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acids)

กรดไขมันโอเมก้า 3 ถือเป็นหนึ่งในไขมันดีที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งการจะได้รับกรดไขมันชนิดนี้จะได้จากการรับประทานอาหารเท่านั้น ส่วนมากจะพบในเนื้อปลา โดยเฉพาะปลาแซลมอน เป็นแหล่งรวมกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบได้ง่ายและได้รับความนิยมมากในคนไทย รวมทั้งในปลาทูน่าด้วย ประโยชน์โดยตรงคือช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (ที่ไม่ดี) และความหนืดของเลือด รวมถึงการอักเสบภายในร่างกาย ใครเป็นสิวอักเสบ เมื่อทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ให้เพียงพอ จะช่วยให้สิวอักเสบบรรเทาลงได้ นอกจากนี้ยังลดอาการบวมแดง และลดการระคายเคืองบนผิวหนัง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้านด้วย รู้อย่างนี้แล้วคงต้องเพิ่มเมนูปลาให้บ่อยขึ้นแล้วล่ะ

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)

ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีต่อร่างกายนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะประโยชน์ต่อผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระจะเข้าไปชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ และช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อที่จะทำให้ผิวเต่งตึง ลดปัญหาผิวเรื่องริ้วรอยต่างๆ รวมถึงความหย่อนคล้อย และช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังจากแสงแดด ความร้อน รวมถึงรังสี UV จึงพูดได้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระเปรียบเหมือนเกราะป้องกันไม่ให้ผิวของเราเสื่อมสภาพ แถมยังทำหน้าที่ซ่อมแซมเซลล์ผิวไม่ให้หมองคล้ำด้วย ซึ่งสารดังกล่าวสามารถพบได้ในอาหารจำพวกผัก ผลไม้ เช่น ส้ม แอปเปิ้ล กระเทียม เลมอน องุ่นแดง ชาเขียว หัวหอม มะเขือเทศ แครอต ฟักทอง ข้าวโพด บร็อกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลา กุ้ง ไข่ปลา เป็นต้น

สังกะสี (Zinc)

ประโยชน์ของสังกะสี คือมีส่วนช่วยในการดูดซึมและการเกิดปฏิกิริยาของวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวม และช่วยให้เซลล์สามารถนำวิตามินเอไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวหนังที่เกิดขึ้นใหม่มีความสมบูรณ์ ช่วยให้ความสมดุลของผิวหนังเป็นปกติ และช่วยป้องกันปัญหาสิวซึ่งมีสาเหตุมาจากการอุดตันของไขมันได้ อาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสีพบได้ทั่วไปในอาหารประเภทเนื้อสัตว์สัตว์และพืช เช่น อาหารทะเล หอยนางรม ตับ ตับอ่อน ไข่ เนื้อสัตว์ เมล็ดฟักทอง จมูกข้าวสาลี โกโก้ ชา ถั่ว และกระถิน

จากข้อมูลต่างๆ เหล่านี้หลายคนน่าจะเริ่มรับรู้แล้วว่า สารอาหารบางอย่างมีความสำคัญและมีส่วนช่วยให้อาการของสิวดีขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวังคือ แม้สารอาหารเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ แต่ก็ไม่ควรตั้งหน้าตั้งตากินแต่อาหารประเภทนั้นอย่างเดียว เพราะจะส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่สมดุล การกินอาหารชนิดเดียวไม่สามารถทำให้ผิวดีขึ้นได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการกินอาหารให้หลากหลายและได้สารอาหารครบถ้วน ควบคู่ไปกับการทำความสะอาดผิวและทายาสิวอย่างถูกวิธี จึงจะได้ผลสูงสุด