จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) 5 พรรคเล็ก ประกอบด้วย พรรคไทยศรีวิไลย์, พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่, พรรคประชาธรรมไทย และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ประกาศทบทวนการร่วมรัฐบาลว่าจะเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านอิสระ
ล่าสุดวันนี้ พิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย 1 ใน 5 พรรคเล็ก ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ว่าเมื่อช่วงค่ำวานนี้แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า กับสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว ซึ่งก็ถือว่าจบแล้วหลังมีการส่งผู้ใหญ่มาเจรจา
พิเชษฐเปิดเผยถึงสาเหตุที่กลุ่มพรรคเล็กขอทบทวนการร่วมรัฐบาลว่าพรรคพลังประชารัฐเคยสัญญาตั้งแต่แรกว่ากลุ่ม 10 พรรคเล็กจะได้โควตา 1 รัฐมนตรีและ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่พอไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีก็บอกว่าจะได้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีแทน แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการทำตามที่พูดไว้ ทำให้เกิดความไม่พอใจจากผู้สนับสนุนพรรค ซึ่งเขาก็ถามว่ามาอยู่ร่วมรัฐบาลนั้นอยู่กันอย่างไร ได้ทำงานขับเคลื่อนนโยบายของพรรคหรือไม่
ทั้งนี้เมื่อมีการส่งตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐมารับฟังเพื่อหาทางออก และมีการรับปากว่าจะพยายามจัดสรรให้พรรคเล็กได้มีตัวแทนเข้าไปทำงานในรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนงานต่างๆ แต่อีกด้านหนึ่งก็เห็นใจพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องเอา ส.ส. สอบตกในพรรคไปนั่งในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งทำให้ตำแหน่งมันแน่นไปหมด
ส่วนตัวเชื่อว่าด้วยอำนาจของนายกรัฐมนตรีจะสามารถจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ได้ แต่ตอนนี้คงอยู่ในช่วงเวลาแก้ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐก่อน
สำหรับการเจรจาก็ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลงไป และโดยส่วนตัวในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทยถือว่าการเป็นฝ่ายค้านอิสระก็ไม่มีแล้ว เพราะได้มีการเคลียร์กันแล้ว
ด้าน มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ว่าการเจรจาเมื่อคืนนี้ส่วนตัวไม่ได้เข้าร่วมด้วย และยังยืนยันว่าตอนนี้มีสถานภาพเป็นฝ่ายค้านอิสระ ความหมายคือร่วมกันทำงานกับทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในเรื่องที่ถูกต้องเท่านั้น แต่จะบอกว่าไม่ร่วมรัฐบาลเลยคงไม่ได้ เพราะบางเรื่องที่เป็นประโยชน์คงจะไม่เข้าร่วมไม่ได้
“ที่พูดนี่ไม่ได้กั๊ก เพราะแก้วมันร้าวไปแล้ว เขาส่งทูตมาเจรจา แต่จะบอกว่า 5 พรรคเล็กกลับลำแล้วก็คงไม่ได้ เพราะมันยังไม่จบ คนที่มาคุยเขาจะเอาเรื่องไปเสนอกับหัวหน้าพรรค คือให้มีคนใน 10 พรรคเล็กไปอยู่ในตำแหน่งทางการเมือง เช่น ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้ไปทำงานตามที่ถนัด”
มงคลกิตติ์ให้ข้อมูลตรงกันถึงสาเหตุของรอยร้าวระหว่างพรรคเล็กกับพรรคแกนนำรัฐบาลว่ามาจากการผิดสัญญา แต่เดิมที่บอกจะให้โควตา 1 รัฐมนตรีกับ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่เมื่อไม่ได้ก็จะเยียวยาให้โดยการมีตำแหน่งทางการเมืองทุกคนเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายแต่ละพรรคได้ ซึ่งจนถึงปัจจุบันพรรคเล็กก็ยังไม่ได้ตามที่รับปากไว้ ซึ่งถือว่าผิดคำพูด
“ถามว่ามาเคลียร์แล้ว แต่มาเคลียร์ปากเปล่า จะชัดเจนก็ต่อเมื่อมีคำสั่งออกมา มีตำแหน่งหน้าที่ชัดเจน แต่ถึงแม้จะมีคำสั่งแต่งตั้งทางการเมืองแล้วก็ยังมีอย่างน้อย 3 พรรคที่จะเป็นฝ่ายค้านอิสระอยู่ สิ่งเดียวที่จะสมานแผลได้คือการคืนโควตารัฐมนตรีกลับมา”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
