Fitch Ratings เตือนว่าอาจต้องหั่นเครดิตแบงก์ใหญ่ในสหรัฐฯ รวมถึง JP Morgan หลังจากปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือภาคธนาคารสหรัฐฯ ลงเมื่อเดือนมิถุนายน
Fitch Ratings บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำในสหรัฐฯ ออกโรงเตือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 สิงหาคม) ว่าอาจต้องปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา รวมถึงธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ อย่าง JP Morgan Chase โดยมีเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการเดินหน้าปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของภาคการเงินการธนาคารโดยรวม
Chris Wolfe นักวิเคราะห์ของ Fitch Ratings อธิบายว่า ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน Fitch ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารสหรัฐฯ ลงสู่ระดับ AA- เรียบร้อยแล้ว กระนั้นการปรับลดอันดับดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารแต่ละแห่งแต่อย่างใด
โดยหาก Fitch ต้องหั่นอันดับเครดิตภาคการธนาคารของสหรัฐฯ ลงอีกครั้งจาก AA- เป็น A+ การเคลื่อนไหวนี้ก็จะบีบบังคับให้ Fitch จำเป็นต้องทำการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารแต่ละแห่ง รวมมากกว่า 70 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลายแห่งลง
เหตุผลเพราะอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารจะไม่สามารถสูงกว่าอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารได้ ซึ่งปัจจุบัน อันดับความน่าเชื่อถือของ JP Morgan และ Bank of America อยู่ที่ระดับ AA- ดังนั้นหากอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารสหรัฐฯ ถูกปรับลดลงสู่ระดับ A+ ก็จะทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของ JP Morgan และ Bank of America ถูกปรับลดลงสู่ระดับ A+ ด้วยนั่นเอง
สำหรับการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือรายธนาคารนี้ Wolfe เตือนว่า การดำเนินการในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาด ซึ่งต่างจากการปรับลดเครดิตครั้งก่อนหน้าในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ Wolfe ยังแสดงความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของการผิดนัดชำระหนี้ในภาคธนาคาร หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ในช่วงหลายสัปดาห์ ทางบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่บรรดานักลงทุนใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงในการลงทุน ได้สร้างแรงกระเพื่อมสั่นคลอนตลาดไม่น้อย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Moody’s เพิ่งประกาศปรับลดอันดับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง 10 แห่ง และเตือนว่าอาจมีการปรับลดอีก 17 แห่ง รวมถึงสถาบันขนาดใหญ่ เช่น Truist
ขณะเดียวกัน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Fitch ก็ได้มีการปรับลดอันดับเครดิตระยะยาวของสหรัฐฯ เนื่องจากปัญหาทางการเมืองและภาระหนี้ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่บรรดาผู้นำทางธุรกิจ รวมถึง Jamie Dimon ซีอีโอของ JP Morgan มองว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความหมาย
อย่างไรก็ตาม การออกมาเตือนหั่นอันดับเครดิตของ Fitch ครั้งนี้ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ร่วงลงมากกว่า 100 จุด นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคาร ขณะที่ดัชนีธนาคาร S&P 500 ปรับตัวลดลง 2.1% แตะระดับต่ำสุดในรอบเดือน
ยิ่งไปกว่านั้น ภาคการธนาคารของสหรัฐฯ ยังได้รับแรงกดดันจากการที่ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) ออกมาส่งสัญญาณเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 สิงหาคม) ด้วยการเสนอให้ยกเครื่องวิธีการกำกับดูแลธนาคารภูมิภาค (Regional Bank) ทำให้หลายฝ่ายหวั่นเกรงต่อกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed
ทั้งนี้ หุ้นของ Bank of America และ Wells Fargo ร่วงลงมากกว่า 2% ขณะที่หุ้น JP Morgan Chase, Goldman Sachs, Citigroup และ Morgan Stanley ลดลงระหว่าง 1.6-1.8%
ขณะที่ในส่วนของธนาคารขนาดกลาง หุ้นของธนาคาร Western Alliance Bancorporation และ PacWest Bancorp ปรับลดลงมากที่สุดที่ 8.4% และ 1.6% ตามลำดับ
อ้างอิง:
